ผลวิจัยระดับโลกชี้ Cerafusion™ เทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคในอากาศและพื้นผิว มีประสิทธิภาพสูงถึง 99.97% ย้ำความสำเร็จหลังเยอรมนีเลือกใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพอากาศในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 7 เมษายน 2566 — Cerafusion™ เทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวและในอากาศจากเอเชียที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเมดด์คลินน์ ขึ้นแท่นอันดับ 1 จากการศึกษาประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรคภายในอาคาร ที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยชั้นนำของเยอรมนี The Fraunhofer Institute for Building Physics (“Fraunhofer IBP”) และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี

การศึกษาดังกล่าวมีชื่อว่า CineCoV Study ริเริ่มโดย SPIO ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเยอรมนี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในโรงภาพยนตร์และสถานที่จัดกิจกรรมบันเทิงขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการบริการยุคนิวนอร์มอลหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 การศึกษานี้จัดทำโดยสถาบัน Fraunhofer IBP ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยที่สนับสนุนโดยกระทรวงวัฒนธรรมและสื่อแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (German Federal Government Commissioner for Culture and Media – BKM)

การศึกษาดังกล่าวได้ทดสอบประสิทธิภาพของการฆ่าเชื้อโรคภายในอาคารที่เป็นสถานที่ปิด และผลการศึกษาชี้ว่าเทคโนโลยี Cerafusion™ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเทคโนโลยีอื่นในด้านการปรับปรุงการระบายอากาศและการฆ่าเชื้อในอากาศในโรงภาพยนตร์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ทำให้ Cerafusion™ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ได้รับเลือกให้ใช้ในโรงภาพยนตร์ชั้นนำ 21 แห่งทั่วเยอรมนี

ดร. คิง ยอง จิน ประธาน ASHRAE Malaysia Chapter (MASHARAE) ศ.ออง ชิง ลุน อดีตประธาน และศ.เชง เทียม เหลียง ประธานกรรมการเฉพาะกิจด้านโรคระบาด ประจำมาเลเซีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลการศึกษานี้ และถือได้ว่าเป็นความสำเร็จระดับโลกของเทคโนโลยีจากเอเชียที่คนส่วนมากไม่ทราบมาก่อน

นายแดเนียล ลู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม เมดด์คลินน์ กรุ๊ป

นายแดเนียล ลู  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม เมดด์คลินน์ กรุ๊ป กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมาได้มีการนำเทคโนโลยี Cerafusion™ ไปใช้ในโรงภาพยนตร์ 21 แห่งของ 6 เครือโรงภาพยนตร์ ซึ่งมีจำนวนที่นั่งรวม 2,274 ที่นั่งทั่วเยอรมนี ได้แก่ เครือ Cincinnati Cinema (400 ที่นั่ง) Neues Rex Cinema (170 ที่นั่ง) และ Rottmann Cinema (120 ที่นั่ง) ในเมืองมิวนิคและบาวาเรีย รวมถึงโรงภาพยนตร์อีก 3 แห่งในเมืองแมร์เซอเบิร์ก (Mersberg) ได้แก่ Straubing (597 ที่นั่ง)  Sinsheim (487 ที่นั่ง) และ Domstadt Kino (500 ที่นั่ง)

นายลูกล่าวเสริมว่า โรงภาพยนตร์ในเยอรมนีได้พยายามเพิ่มความปลอดภัยและสุขอนามัยหลังจากพ้นช่วงการระบาดหนักของโรคโควิด-19 แล้วแต่ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ชมทั่วประเทศจะมีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อเข้าชมภาพยนตร์ “โรงภาพยนตร์ในเยอรมนีได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับสุขอนามัยและความปลอดภัยต่างๆ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะ การจำกัดจำนวนผู้เข้าชม รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศ  อย่างไรก็ดี SPIO ซึ่งเป็นองค์กรหลักของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์เห็นว่ามาตรการเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

“ดังนั้น SPIO และกระทรวงวัฒนธรรมและสื่อแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้มอบหมายให้สถาบัน Fraunhofer Institute ศึกษาและประเมินประสิทธิภาพของเทคโนโลยี 2 ชนิดที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสชนิดแพร่กระจายในอากาศ ได้แก่ เทคโนโลยี CerafusionTM Sterilization Technology และ Upper UVC พร้อมระบบระบายอากาศทั่วไป ผลการศึกษานี้ชี้ชัดว่า เทคโนโลยี Cerafusion™ Air Sterilization Technology จากเมดด์คลินน์ มีประสิทธิภาพสูงกว่าในการลดปริมาณเชื้อไวรัสในอากาศได้อย่างรวดเร็ว”

สถาบัน Fraunhofer Institute ได้ใช้โรงภาพยนตร์ Cincinnati ในเมืองมิวนิคเป็นสถานที่ทดสอบ และผลปรากฎว่าเทคโนโลยี Cerafusion™ มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณเชื้อไวรัสได้มากในระยะเวลาสั้น เมื่อเทียบกับระบบระบายอากาศทั่วไป ในการศึกษานี้ ได้มีการใช้ไวรัสเสมือนจริง (Surrogate virus) ชนิด  enveloped Phi6 bacteriophage ซึ่งเป็นไวรัสที่มีเปลือกหุ้มของแบคทีเรีย Phi6 โดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเทคโนโลยี Cerafusion™ กับระบบระบายอากาศทั่วไปในการกำจัดเชื้อดังกล่าว ผลการศึกษาชี้ว่า Cerafusion™ สามารถลดปริมาณไวรัสในอากาศได้ถึง 99.97%

นายลูกล่าวเสริมว่า ผลการศึกษานี้สะท้อนความสำเร็จก้าวใหม่ของ Cerafusion™ เนื่องจากก่อนหน้านี้ HygCen Germany ได้ทำการศึกษาและชี้ว่า Cerafusion™ สามารถลดปริมาณไวรัสในอากาศได้ถึง 99% ในเวลา 10 นาที “ผลการศึกษาเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี Cerafusion™ ในการกำจัดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การศึกษาทั้งสองชิ้นจัดทำโดยใช้เทคโนโลยีกำจัดเชื้อโดยใช้โอโซนในระดับต่ำและมีการควบคุมด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างดีตามมาตรฐาน” นายลู กล่าวเสริม

สำหรับในประเทศมาเลเซีย มีการใช้เทคโนโลยี Cerafusion™ Sterilization Technology ของเมดด์คลินน์ ในสถานที่ต่างๆ เช่น Aurum Theatre, The Gardens Mall ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และ Aurum Theatre, The Mall, Mid Valley Southkey ในยะโฮร์บารู นอกจากนี้เครือโรงภาพยนตร์ GSC กำลังจะนำเทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวนี้ไปใช้ในอีกหลายแห่ง เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีและมีสุขอนามัยที่ระหว่างการชมภาพยนตร์ ดร.คิง ยอง จิน พร้อมด้วย ศ.ออง ชิง ลุน และศ.เชง เทียม เหลียง ซึ่งเป็นวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่สนใจด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร ย้ำว่า เรามีความจำเป็นที่ต้องนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ให้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส

ดร.ลู กล่าวเสริมว่า “การศึกษานี้ ให้ความสำคัญกับปัจจัยหลายด้านที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของอากาศภายในอาคาร และเทคโนโลยีที่ใช้โอโซนระดับต่ำนี้สามารถตอบโจทย์ที่เข้มงวดของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของเยอรมนี รวมทั้งสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในบริเวณที่มีประชาชนอยู่”

นายยอร์ก ทัตเทิลแมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัท เมดด์คลินน์ เยอรมนี กล่าวว่า Cerafusion™ เป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้ทรัพยากร ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีการเริ่มนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร โรงแรม ร้านอาหาร ฟิตเนส และสำนักงาน

นายแดเนียล ลู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม เมดด์คลินน์ กรุ๊ป และนายกฤษณ์ กนกวลีวงศ์ ซีอีโอ บริษัท เมดด์คลินน์ ประเทศไทย และกรรมการบริษัท คีธ แอนด์ คิม คอนเซ็ปต์

นายกฤษณ์ กนกวลีวงศ์ ซีอีโอ บริษัท เมดด์คลินน์ ประเทศไทย และกรรมการบริษัท คีธ แอนด์ คิม คอนเซ็ปต์ กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมดด์คลินน์ เพราะ Cerafusion™ ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความยั่งยืน และได้รับการพิสูจน์แล้วจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง สำหรับในประเทศไทย เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยลูกค้าของเราส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรในธุรกิจเฮลท์แคร์ โรงแรม และร้านอาหาร และมีแนวโน้มว่าจะมีองค์กรในธุรกิจอื่นๆ เพิ่มมาอีกในอนาคต”

มร. ลู กล่าวสรุปว่า “เราภูมิใจทีได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำจากเอเชียออกไปสู่ตลาดโลก การที่ธุรกิจหลายประเภทในเยอรมนีเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจและเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของเรา  เมดด์คลินน์จะยังคงเดินหน้าขยายตลาดทั่วยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง”

“นอกจากนี้ การที่เราได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในระดับโลก ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมาก ผลการศึกษาของสถาบัน Fraunhofer IBP และการศึกษาอิสระอื่นๆ ต่างก็ย้ำว่าเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวแบบที่ใช้โอโซนระดับต่ำนี้มีความปลอดภัยมาก และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เมดด์คลินตอกย้ำตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

ดร. เชน มีความเชื่อมั่นว่า ในอนาคตเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวด้วยโอโซนระดับต่ำจะเป็นทางเลือกที่มีความยั่งยืน “การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้องค์กรต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัย และการใช้เทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวที่วางใจได้และมีประสิทธิภาพด้านต้นทุน ซึ่งทำให้ความต้องการเทคโนโลยีดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ดร.เชนกล่าว

เมดด์คลินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้สร้างความตระหนักถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศและด้วยโอโซนระดับต่ำของเทคโนโลยี Cerafusion™ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอด 17 ปีที่ผ่านมา  ความพยายามนี้สะท้อนจุดยืนของเมดด์คลินน์ในการลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย และหันมาใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อยกระดับสุขอนามัยของประชาชนแทน