ETDA จับมือ 15 หน่วยงาน รัฐ-เอกชน จัดใหญ่ “Hack for GROWTH” เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรม หนุนธุรกิจท่องเที่ยวไทย ยกระดับการเติบโต
19 พฤษภาคม 2566, กรุงเทพฯ – สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จับมือพาร์ทเนอร์รัฐ-เอกชนกว่า 15 หน่วยงาน อาทิ กรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ เทคซอส มีเดีย เร่งดันธุรกิจท่องเที่ยวไทย จัดใหญ่ “Hack for GROWTH” ในคอนเซ็ปต์ Make a Chance to Grow Together เฟ้นหานวัตกรรมที่ “ใช่” ตอบโจทย์ธุรกิจท่องเที่ยวไทยเพื่อยกระดับการเติบโต สู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลไทยในอนาคต ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท รับสมัครแล้ววันนี้
ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า การพัฒนาและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ที่เราโฟกัส เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยยกระดับ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการทำธุรกิจไปพร้อมๆ กับการร่วมสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการทำ Digital Transformation ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์จริง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศ ถือเป็นภารกิจหลักที่ ETDA ให้ความสำคัญและเดินหน้าขับเคลื่อนงานมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการดำเนินงานสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น การร่วมผลักดันกฎหมาย มาตรฐานดิจิทัลที่สำคัญ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ ยังมี Digital Service Sandbox ที่ช่วยสนับสนุนและร่วมพัฒนานวัตกรรม บริการดิจิทัลที่จำเป็นต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มีสถาบัน ADTE by ETDA แหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญและหลักสูตรด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะถ่ายทอดความรู้และคอยให้คำปรึกษาพัฒนาทักษะแก่ผู้ประกอบการตลอดจนภาครัฐ ให้พร้อมเปลี่ยนผ่านการทำงานไปสู่ยุคดิจิทัล ตลอดจนอีกหลากหลายกิจกรรมดีๆ ที่เกิดขึ้น ที่เข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการเร่งเครื่องในทุกภาคส่วน เกิดการทำ Digital Transformation ได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่าง กิจกรรม Online Seminar จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองความรู้ หลักวิธีคิดต่างๆ ผ่านกิจกรรม ETDA LIVE หรือแม้เเต่ กิจกรรม Hackathon ที่เฟ้นหานวัตกรรม โซลูชันใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาต่างๆ แก่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างล่าสุดที่เพิ่งจบไปกับกิจกรรม “Hack for GOOD” ที่ไม่เพียงทำให้เราได้สุดยอดนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยยกระดับชีวิตคนเมืองเชียงใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ของการต่อยอดนวัตกรรม บริการใหม่ ๆ จากผู้พัฒนา สตาร์ทอัพคนไทย สู่การใช้งานจริงด้วย
สานต่อสู่ กิจกรรม “Hack for GROWTH” ปีนี้เราจัดขึ้นเป็นปีแรก ภายใต้แนวคิด Make a Chance to Grow Together เพื่อเฟ้นหานวัตกรรม โซลูชัน ระบบ หรือ แพลตฟอร์ม ที่จะเข้ามาตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาให้กับธุรกิจท่องเที่ยวไทยให้เติบโตกว่าที่เคย ไปพร้อม ๆ กับการเป็นพื้นที่เครือข่ายความร่วมมือ ในการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม โซลูชัน ที่เหมาะสมแก่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ให้พร้อมสู่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจรองรับโลกอนาคต ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานพาร์ทเนอร์สำคัญๆ ที่เกี่ยวข้อง กว่า 15 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน), สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย, สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย, สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank), The Finlab powered by UOB, Amazon Web Services (Thailand) และเทคซอส มีเดีย
เนื่องจาก “ภาคการท่องเที่ยว” เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 เพียงไตรมาสแรกพบว่า นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไทยแล้วถึง 6.4 ล้านคน เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกันถึง 1,202% ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศที่ปรับดีขึ้น สร้างรายได้ให้กับประเทศรวมแล้วกว่า 2.5 แสนล้านบาท (ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) แต่จากการจากการสำรวจโดย ETDA และเทคซอส มีเดีย ในช่วงเดือนเมษายน 2566 ผ่านกระบวนการสัมภาษณ์ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อสะท้อนมุมมองประเด็นที่ส่งผลต่อการยกระดับการดำเนินธุรกิจ พบว่า ในภาพรวมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กำลังประสบปัญหาที่กระทบต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างน่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นด้านภาพรวมของตลาดที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ยาก ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้า ทั้งยังขาดความรู้ ความชำนาญในการทำการตลาดและการเลือกใช้เครื่องมือ Digital ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างยอดขาย ขณะที่อีกหลายธุรกิจก็ยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถตรงตามที่ธุรกิจต้องการ เกิดการลาออกและย้ายงานบ่อยครั้ง จนกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจในภาพรวม รวมไปถึงส่วนใหญ่ยังขาดระบบ หรือ เครื่องมือที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการงานภายในองค์กรและการบริหารจัดการงานบุคคลที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้อยู่กับองค์กรไปนานๆ เป็นต้น
“จะทำอย่างไร? เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ก้าวข้ามข้อจำกัด เดินหน้าธุรกิจไปต่อได้ และเติบโตกว่าที่เคย…นี่คือโจทย์สำคัญที่เราจะต้องไปต่อ โดยกิจกรรม “Hack for GROWTH” ไม่เพียงแค่การเฟ้นหา นวัตกรรม โซลูชัน ใหม่ ๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาธุรกิจท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งเวทีของการต่อยอดนวัตกรรมทั้งที่มีอยู่หรือทำขึ้นใหม่ ให้เกิดการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นและเกิดการนำไปใช้งานจริงในวงกว้าง พร้อมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการหาหนทางในการสนับสนุนเพื่อให้ไปต่อได้จริง เพื่อเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการผลักดันให้ประเทศพร้อมเดินหน้าสู่โลกอนาคต ภายใต้ขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลที่ทัดเทียมสากล”
จากข้อจำกัดที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญ นำมาสู่การสร้างสรรค์กลายเป็นโจทย์การแข่งขันสุดท้าทายภายใต้ชื่อโจทย์ 3R ที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องร่วมนำเสนอไอเดีย นวัตกรรม โซลูชัน ระบบ หรือ แพลตฟอร์มให้สอดคล้องกับโจทย์ที่กำหนด ดังนี้ 1. Revenue Growing นวัตกรรม โซลูชัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างยอดขายจากทรัพยากรที่มีอยู่ โดยเน้นให้ความสำคัญและช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการในกลุ่ม SMEs ด้าน Tourism โดยเฉพาะ ธุรกิจที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร และนำเที่ยว 2. Recruiting Better นวัตกรรม โซลูชัน เพื่อช่วยสรรหาบุคลากรที่มีทักษะความสามารถสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและอุตสาหกรรม 3. Retaining People Growth นวัตกรรม โซลูชัน เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการวิธีการทำงานของทีมภายในองค์กร เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางเพื่อการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการที่อาจจะมองในมุมของ Customer Retaintion ควบคู่กันไปด้วยได้ เป็นต้น
โดยทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 250,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร และรางวัลขวัญใจกรรมการจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 75,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร ที่สำคัญ ทั้ง 3 อันดับ นอกจากนี้ ยังจะได้รับ AWS Credits จาก Amazon Web Services ตลอดโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรม Pitching ที่เวที Tech Showcase ในงาน Techsauce Global Summit 2023 พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรม โซลูชันให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สู่การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ อีกด้วย
กิจกรรม “Hack for GROWTH” เริ่มเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2566 จากนั้นคณะกรรมการจะทำการคัดเลือกให้เหลือ 40 ทีม โดยจะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 เพื่อเข้าสู่กิจกรรม Open House เปิดบ้านต้อนรับทีมผู้เข้ารอบ สำหรับ Service Provider สตาร์ทอัพ นิสิต นักศึกษา หรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถติดตามรายละเอียดคุณสมบัติของทีมผู้เข้าเเข่งขัน โจทย์การแข่งขัน ตลอดจนรายละเอียดรางวัลเพิ่มเติมและสมัครร่วมกิจกรรมการแข่งขันได้ที่เว็บไซต์ https://www.etda.or.th/th/hackforgrowth หรือ ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand: https://www.facebook.com/ETDA.Thailand