ก้าวแห่งความท้าทาย กับ 2 ซีอีโอยุคใหม่ ธัญพิมล เกิดศิลป์ – ไกรวิชญ์ คุมมงคล แม่ทัพแบรนด์ Bow R Collagen
คุณเคยมีความฝันบ้างไหม ฝันที่ว่าคืออะไร แล้ววันนี้คุณเริ่มต้นทำ “ฝัน” นั้นๆ ให้เป็นจริงแล้วหรือยัง นี่คือคำถามที่มักเจอกันบ่อย เมื่อพูดถึงเป้าหมายในอนาคต เช่นเดียวกับ “เปรี้ยว-ธัญพิมล เกิดศิลป์” หญิงสาววัยเพียง 20 ปี กับ “เอิร์ธ-ไกรวิชญ์ คุมมงคล” หนุ่มหล่อวัย 27 ปี ที่เป็นตัวอย่างคนรุ่นใหม่ ที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าลงมือทำ เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาและเธอคิดหรือฝันไว้เป็นจริงขึ้นมา
“เปรี้ยว-ธัญพิมล เกิดศิลป์” ซีอีโอสาวแห่งแบรนด์ Bow R Collagen เล่าถึงความมุ่งมั่นของเธอกับการก้าวเข้ามาจับธุรกิจอาหารเสริม ซึ่งถือเป็นธุรกิจแรกที่เกิดขึ้นในชีวิต “เปรี้ยวยอมรับค่ะว่า ตัวเองเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง แต่เราก็มีความคิดอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้น เพราะเรามองว่า โอกาสดีๆ มักจะวิ่งเข้ามาหาเราหากเราดูดี” ซีอีโอสาว ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา บอกว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มหันมาดูแลตัวเอง ด้วยการรับประทานาคอลลาเจนที่พี่ชาย (เอก บางแสน) ซื้อมาฝากจากญี่ปุ่น
“พอกินไปแล้วก็ประทับใจ เลยกินต่อเนื่องประมาณ 1 ปี แต่พอเจอโควิด หาซื้อไม่ได้ ก็เลยมาคิดว่า ถ้าเราผลิตเองได้ก็คงจะดี โชคดีค่ะ ที่ได้มีโอกาสมาคุยกับทาง เวก้า จนได้ร่วมกันผลิตคอลลาเจนอย่างที่เราต้องการออกมา บอกเลยค่ะว่าตอบโจทย์ของเราเอง และคนรอบข้างได้อย่างโดนใจจริงๆ ค่ะ เพราะกินเอง เลยทำให้รู้ถึงประสิทธิภาพของคอลลาเจน เลยมองว่าประเทศของเราก็ผลิตของที่มีคุณภาพได้ดีไม่แพ้ต่างประเทศ ที่สำคัญคอลลาเจนที่เราผลิตยังเป็นไทพ์ที่ดีที่สุดด้วย” นั่นเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเข้าสู่ธุรกิจโดยตรง ที่ไม่เพียงเปลี่ยนตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง ในฐานะนักธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนมออนไลน์ มาเป็นภาพจำใหม่ ในฐานะ CEO สาวแบรนด์ Bow R Collagen
“แต่การทำธุรกิจนี้ ตัวของเปรี้ยวเองมองว่า ถ้าเราทำคนเดียวก็คงจะบริหารแบรนด์ให้เติบโตไม่ได้ เลยมาลองไปพูดคุยกับพี่เอิร์ธ ที่อาจเรียกว่าเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยก็ได้ค่ะ และพี่เอิร์ธก็รู้จักกับกับพี่ชายของเราอยู่แล้ว คุยกันอยู่นานพอสมควร พอพี่เอิร์ธตอบตกลง ก็เลยชวนพี่เขามาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับแบรนด์ Bow R ค่ะ”
เอิร์ธ-ไกรวิชญ์ คุมมงคล หนุ่มหล่อดีกรี มิสเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ (MIT) 2019 ยอมรับว่า หลังจากที่มาพูดคุยกับทางเปรี้ยวและพี่ชาย สิ่งหนึ่งที่แว่บขึ้นมาในความคิดก็คือ ช่องทางการตลาด “พอผมได้ฟังไอเดียของเปรี้ยวและพี่เอก ก็มองเห็นลู่ทางการตลาด ที่สามารถต่อยอดออกไปได้เรื่อยๆ แบบไม่รู้จบ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากไอเดียเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ผมยังไม่เคยเห็น หรือมีการพูดออกมาเลย ยิ่งสมัยนี้คนเรามักต้องเจอกับปัญหาความเครียด รวมถึงได้รับความกดดันอย่างหนักจากงานที่ทำ ทำให้หลายๆ คนมีปัญหาการนอนหลับยาก”
“Collagen z lep จึงเรียกได้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ และแก้ปัญหาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี” ซีอีโอหนุ่มตอกย้ำคุณสมบัติของคอลลาเจน ที่เขาเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ “ความพิเศษของผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ไม่เพียงจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และเปล่งปลั่งเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสภาพร่างกาย และการนอนของเราให้หลับเต็มตื่น ไม่ใช่กินแล้วหลับ แต่เป็นการทำให้การนอนของเราเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และหลับลึกมากขึ้น”
ซีอีโอหนุ่มบอกด้วยว่า เหตุผลที่ทำให้เขากล้าตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนี้ ก็เพราะเขามองเห็นอนาคตของตัวเอง “ผมเคยทำงานในวงการบันเทิงทั้งด้านหน้าและเบื้องหลัง แม้แต่การเป็นตากล้องหรือผู้ช่วยผู้กำกับก็เคยมาแล้ว ยอมรับครับว่าหากเราอายุมากขึ้น หรือหากเราต้องเจอกับอุบัติเหตุจนทำให้ไม่สามารถแสดงภาพยนตร์หรือละครได้ อนาคตของเราตรงนั้นก็จะจบลงในทันที ด้วยเหตุนี้ ผมจึงมอว่าหากเรามีธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งที่สามารถรองรับอนาคตข้างหน้าของเราได้อย่างยาวๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งดี ซึ่งการเข้ามาในธุรกิจอาหารเสริมนี้ ก็เป็นอีกอาชีพที่ผมเชื่อว่า จะทำให้ผมและครอบครัว รวมถึงทีมงานทุกคน มีความมั่นคงในอาชีพ และเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างดี”
สำหรับแนวโน้มของธุรกิจอาหารเสริม สองซีอีโอหนุ่มสาวมั่นใจว่า ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค “เปรี้ยวเชื่อค่ะว่า เทรนด์ของธุรกิจอาหารเสริมหรือคอลลาเจน ไม่เคยตกเทรนด์การตลาดเลย แถมยังมีช่องทางการตลาดเกิดขึ้นให้เราเห็นอยู่เสมอ เพียงแค่เราต้องสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้จริง”
“ใช่ครับ” ซีโอหนุ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอธิบาย “วันนี้ เราอาจเห็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่เป็นอาหารเสริมออกมาแทบทุกวัน ดังนั้นการที่เราจะผลิตสินค้าอะไรออกมาสักชิ้นก็ตาม เราต้องโฟกัสสิ่งที่จะทำให้ได้ก่อนว่าจะมีความแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นๆ อย่างไร รวมถึงเราเองต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ด้วยครับ”
“ส่วนกลุ่มเป้าหมายของ คอลลาเจน ซี เลป เราวางไว้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัยครับ แต่เชื่อหรือไมว่า พอเราเริ่มวางจำหน่าย กลายเป็นว่าคนที่ชอบผลิตภัณฑ์เราจริงๆ ก็จะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องเจอกับความเครียด และความกดดันจากงานที่ทำ หรือแม้แต่วัยเรียนก็ชอบผลิตภัณฑ์ของเราเหมือนกัน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ตอบรับผลิตภัณฑ์ของเราเป็นอย่างดี”
จากผลตอบรับที่ดีทำให้ สองซีอีโอหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ไฟแรง มั่นใจว่า แบรนด์ Bow R เจ้าของผลิตภัณฑ์ Collagen z lep ยังคงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีอนาคตสดใส “ตอนนี้เรียกว่าการตอบรับในตัวคอลลาเจนของเรา ดีเกินกว่าที่เราคาดไว้มากครับ ทั้งเป้าหมายทางการตลาด และความต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่เกินไปถึง 70% จากที่เราตั้งเอาไว้ 50% และนั่นทำให้เรามองเห็นเป้าหมาย หรือสโคปที่ใหญ่ขึ้นไปอีก” หนุ่มเอิร์ธ ย้ำหนักแน่น
ขณะที่ด้านผู้บริหารสาวแบรนด์ Bow R อธิบายถึงสโคปใหญ่ตามที่หนุ่มเอิร์ธเกริ่นไว้คือ การส่งออกไปยังต่างประเทศ “วันนี้ เรามองการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่าง สปป.ลาว และกัมพูชา เพราะเราเองมองว่า เป็นสองประเทศที่ทำการตลาดได้ไม่ยากนัก เนื่องจาก สปป.ลาว และกัมพูชา มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับไทยอยู่ไม่น้อยค่ะ ขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งสองประเทศเพื่อนบ้านนี้ ก็ใกล้เคียงกับคนไทยด้วย” ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ สินค้าแบรนด์ไทยนี้ ก้าวสู่แบรนด์อันดับหนึ่งของประเทศไทย ตามความฝันของ เปรี้ยว-ธัญพิมล เกิดศิลป์ และเอิร์ธ-ไกรวิชญ์ คุมมงคล สองซีอีโอที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจทำธุรกิจในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ที่แท้จริง
ใครสนใจอยากลอง ผลิตภัณฑ์ Collagen z lep จาก แบรนด์ BOW R สามารถติดตามได้ที่
- Facebook : BOW R
- IG: bowr_official
- TikTok: bowr_official