บันยันกรุ๊ป เปิดตัวชุมชนไลฟ์สไตล์นานาชาติแห่งใหม่ มูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตอบรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในภูเก็ต

  • โฮ กวงปิง (Ho Kwon Ping) ผู้บุกเบิกการท่องเที่ยว ต่อยอดการสร้างรีสอร์ทครบวงจรที่โดดเด่นที่สุดในเอเชีย สู่การพัฒนาชุมชนที่อยู่อาศัยนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูเก็ต

(ภูเก็ต ประเทศไทย 5 กุมภาพันธ์ 2567) – คุณโฮ กวงปิง หรือเคพี โฮ (Ho Kwon Ping: K.P. Ho) ผู้บุกเบิกการท่องเที่ยว และเจ้าของ ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ทครบวงจรที่ใหญ่และโดดเด่นที่สุดในเอเชีย เปิดเผยแผนโครงการแห่งอนาคตแห่งใหม่ โดยตั้งเป้าให้เป็นชุมชนไลฟ์สไตล์นานาชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีความสง่างามและกว้างใหญ่ในชื่อ ลากูน่า เลคแลนด์ (Laguna Lakelands) โดยโครงการตั้งอยู่ติดกับลากูน่า ภูเก็ต

โครงการลากูน่า เลคแลนด์ เกิดขึ้นช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตกำลังเติบโต โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มครอบครัวในทั่วทุกมุมโลก ที่ไม่เพียงแต่ต้องการบ้านพักตากอากาศแบบส่วนตัวในช่วงวันหยุดในภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังต้องการย้ายมาอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังหลักอีกด้วย

ลากูน่า เลคแลนด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่าหนึ่งล้านตารางเมตร (700 ไร่ หรือ 276 เอเคอร์) ท่ามกลางสวนพฤกษศาสตร์ สวนสาธารณะ ป่าฝน ทะเลสาบอันเงียบสงบ และเนินเขา โดยโครงการได้รับการตั้งเป้าให้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และได้รับการออกให้เป็นโครงการชุมชนวงจรสำหรับผู้ที่แสวงหาไลฟ์สไตล์คุณภาพสูง ที่ยังมีความสมดุลตามธรรมชาติอยู่ครบถ้วน

ชุมชนไลฟ์สไตล์ครบวงจรแห่งนี้ จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติที่น่าหลงใหล โดยมีพื้นที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเท้า สะพาน และเส้นทางปั่นจักรยาน ความยาวรวม 15 กม. โดยเส้นทางธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์ที่รายล้อมใน ลากูน่า เลคแลนด์ นี้จะเปิดให้บริการสำหรับชุมชนในวงกว้างอีกด้วย สำหรับผู้ที่อาศัยในโครงการจะได้รับสิทธิพิเศษใน Beach Club ที่ตั้งอยู่บนหาดบางเทาที่สวยงามของชายฝั่งตะวันตกของภูเก็ต และ Country Club สโมสรสันทนาการที่รวมกิจกรรมครบครัน

เครือบริษัทบันยันกรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของคุณเคพี โฮ ดำเนินการก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 นับจากการเริ่มก่อตั้งที่ภูเก็ตในช่วงปี 2533 โดยมุ่งเน้นที่การท่องเที่ยวเป็นหลัก และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยวในภูเก็ตเรื่อยมา ผู้เข้าพักที่ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ทแบบครบวงจรระดับหรู คิดเป็นประมาณหนึ่งล้านคนต่อปี หรือ 10% ของผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตทั้งหมด แต่เนื่องจากความต้องการที่เปลี่ยนไป จากการมาเพื่อเที่ยวพักผ่อนกลายเป็นการย้ายมาใช้ชีวิตในภูเก็ต ปัจจุบันบริษัทฯ จึงพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

เบื้องหลังแนวคิดการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากสถิติการย้ายถิ่นฐานทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ และยังได้รับแรงผลักดันจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านไลฟ์สไตล์ทั่วโลกหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด เช่น การย้ายออกจากเมือง การทำงานนอกออฟฟิศ และการใช้ชีวิตยุคใหม่ที่รองรับครอบครัวขยาย ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ความต้องการที่พักหรูในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างมาก

คุณเคพี โฮ

คุณเคพี โฮ ผู้ก่อตั้งและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป กล่าวว่า “ภูเก็ตนอกจากจะเป็นจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุดในเอเชียแล้ว ภูเก็ตยังกลายเป็นสถานที่ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในเอเชียสำหรับครอบครัวที่สนใจเข้ามาตั้งถิ่นฐานและใช้ชีวิตอย่างสมดุล”

และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศที่น่าดึงดูด เอื้อต่อกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี โรงเรียนนานาชาติ 13 แห่ง ท่าจอดเรือ 4 แห่ง โรงพยาบาลระดับโลก โดยนักเดินทางถึง 40% ของประชากรโลกสามารถบินตรงมายังภูเก็ตได้ภายในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง ภูเก็ตจึงกลายเป็นเหมือนเกาะมาจอร์ก้าแห่งเอเชีย จุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาสัมผัสบรรยากาศ”

ในขณะที่ลากูน่า ภูเก็ต ได้รับการขนานนามว่าเป็นรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดและโดดเด่นที่สุดของภูเก็ต ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการลากูน่า เลคแลนด์ ก็ได้รับการตั้งเป้าให้พร้อมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของที่อยู่อาศัยที่ครบวงจรที่สุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ต และคาดการณ์ว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า จะมีการสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้นถึง 5,000 ยูนิตในภูเก็ต

คุณสจ๊วต เรดดิ้ง

คุณสจ๊วต เรดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป กล่าวว่า “การเปิดตัวโครงการใหม่ของเราสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนทัศน์ของภูเก็ตจากการเป็นสถานที่ที่น่าไปเยือนสู่การเป็นสถานที่ที่น่าอยู่อาศัย โดยความต้องการไม่เพียงแต่จำกัดอยู่ที่การเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความต้องการที่จะย้ายเข้ามาอยู่แบบถาวรที่เพิ่มมากขึ้นด้วย”

“อสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงในภูเก็ตยังคงมีราคาต่ำกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศรัสเซีย จีน หรือยุโรป อยู่มาก ซึ่งนี่ก็ปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน” คุณสจ๊วต กล่าวเสริม

ลากูน่า เลคแลนด์ ได้รับการออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีความโดดเด่นโดยแบ่งเป็น 5 โซนที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฮิลล์ไซด์ (Hillside) ออร์ชาร์ด (Orchard) ฟอเรสต์ (Forest) เลคไซด์ (Lakeside) และลากูน (Lagoon) โดยแต่ละโซนจะมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์เฉพาะตัว และเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินและเส้นทางปั่นจักรยานที่กว้างขวาง

โครงการที่เปิดขายในเฟสแรก คือ เลควิวเรสซิเดนซ์ (Lakeview Residences) คอนโดมิเนียมความสูงสี่ชั้นและเจ็ดชั้นแบบหนึ่งถึงสามห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้า และวอเตอร์ฟร้อนท์วิลล่า (Waterfront Villas) วิลล่าติดลากูน แบบสี่ห้องนอนดีไซน์หรูหราพร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว โดยมีพื้นที่เฉลี่ย 560 ตารางเมตร ราคาคอนโดมิเนียมเริ่มต้นที่ 6.8 ล้านบาท (1.9 แสนเหรียญสหรัฐ) ในขณะที่วิลล่าเริ่มต้นที่ 60 ล้านบาท (1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ภายในโครงการลากูน่า เลคแลนด์จะมีตัวเลือกสันทนาการที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ทุกเพศทุกวัยที่รักสุขภาพ และให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี อาทิ สโมสรนันทนาการส่วนกลาง (Country Club) พร้อมสระว่ายน้ำ สนามกีฬา สนามเทนนิส และกิจกรรมภายในครอบครัวแบบครบครัน

โดยมีโซนผจญภัยบนเนินเขาและพื้นที่เด็กเล่น (Hillside) ตลอดจนเส้นทางเดินป่าและปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมที่จอดจักรยานเสือภูเขาโดยเฉพาะ และทางเดินผ่านป่าฝนไปยังจุดชมบนยอดสูงเพื่อชมพระอาทิตย์ตกอันตระการตา

Town Centre คือหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการออกแบบให้ตั้งอยู่ใจกลางลากูน่า เลคแลนด์ เพื่อเป็นที่พบปะสังสรรค์ สันทนาการ โดยมีร้านค้าและบริการต่างๆ ร้านอาหารริมทะเลสาบ ไว้ให้บริการผู้พักอาศัย รวมไปถึงบีชคลับ และโซนกิจกรรมพร้อมหอคอยขนาดใหญ่ที่มองเห็นทิวทัศน์ของทะเลอันดามัน

ภูมิทัศน์ผืนน้ำอันงดงามพร้อมพื้นที่เปิดโล่งและให้ความเป็นส่วนตัว ถูกออกแบบเพื่อสร้างวิถีชีวิตริมทะเลสาบ (Lakeside) ที่มีความหรูหราและความเงียบสงบที่ไม่ซ้ำใคร

การออกแบบแผนผังโครงการทำให้ไลฟ์สไตล์ที่เน้นความยั่งยืนมีความกลมกลืน โดยผสมผสานเสน่ห์ของการเดินป่าผ่านป่าฝน พร้อมด้วย “จุดชมวิว” ที่มองเห็นวิวด้านล่างในมุมกว้าง สวนผลไม้ออร์แกนิก สวนบนชั้นดาดฟ้าที่ปลูกผลิตผลไร้เคมีที่นำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าได้ทานแบบสดใหม่ บ่อปลา พื้นที่สำหรับเด็กเล่นและสำรวจโดยเฉพาะ และดอกไม้ป่าพื้นเมืองในทุ่งหญ้าอันงดงาม พร้อมบริเวณที่นั่งในวันพักผ่อนหย่อนใจ

ลากูน่าเลคแลนด์ แม้จะแยกออกมาจากลากูน่า ภูเก็ต แต่ที่อยู่อาศัยทั้งสองแห่งนี้ต่างมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามที่เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเฟิร์สคลาสและรีสอร์ทระดับโลกได้อย่างง่ายดาย

“ชุมชนที่พักอาศัยแบบบูรณาการแห่งนี้มอบการเข้าถึงชายหาดแบบส่วนตัวจนถึงร้านอาหารระดับโลก สปา สนามกอล์ฟ โรงเรียนที่ได้มาตรฐาน และกิจกรรมร่วมกันมากมาย เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำเสนอไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทุกด้าน พร้อมมอบการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย สุขภาพที่ยั่งยืนเหนือระดับ และความเพลิดเพลินที่ไร้ขีดจำกัด” คุณเคพี โฮ กล่าว

พิเศษสำหรับประเทศไทย บริษัทนำเสนอตัวเลือกทางการเงินที่ช่วยให้เจ้าของที่อยู่อาศัยสามารถผ่อนชำระค่างวดได้ในระยะเวลาหลายปี

ลากูน่าเลคแลนด์ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากตัวเมืองภูเก็ตที่ไม่เคยหลับไหลและหาดป่าตองที่มีชีวิตชีวาเพียง 30 นาที และจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 25 นาที