ได้เวลาออกเดินทางอีกแล้วค่ะ ทริปนี้เราจะพาคุณไปตะลุยดินแดนสุดขอบฟ้า ทะเลฝั่งตะวันออก ที่ “เกาะช้าง” จ.ตราด แต่ทริปนี้จะไม่แอดเวนเจอร์หนักมากนะคะ จะพาคุณไปทิ้งตัวในอ้อมกอดของธรรมชาติ ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ไม่เร่งรีบ ไปเติมพลังชีวิตให้ตัวเอง คืนสมดุลและฟื้นฟูร่างกายด้วยธรรมชาติ Rebalance by Nature จะเป็นยังไงไปหาคำตอบกัน

เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ กรุงเทพฯ – ตราด ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง แวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน “อากู๋ซีฟู้ด” เป็นร้านอาหารเล็กๆ แต่ตกแต่งร้านได้น่ารักมาก มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุดเลย ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเวฬุฝั่งจันทบุรี วิวดี ลมเย็นสบาย ถ้ามาช่วงเย็นบรรยากาศคงสวยกว่านี้ อาหารอร่อย ราคาไม่แรง แนะนำให้มาเช็คอินกันนะคะ หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารทั้งคาวและหวาน และถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปที่ท่าเรือเฟอรี่อ่าวธรรมชาติ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เพื่อข้ามไปยังเกาะช้าง

โชคดีที่เราเดินทางวันธรรมดา จำนวนรถที่รอข้ามเรือเฟอรี่จึงไม่มากนัก เราใช้เวลากินลมชมวิวอยู่บนเรือประมาณ 40 นาทีก็มาถึงท่าเรือสับปะรด เกาะช้างแล้ว! เรียกว่าการเดินทางมาเกาะช้าง ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิดเลย จะมาทางรถยนต์หรือเครื่องบินก็ได้ ท่าเรือเปิดบริการประมาณ 7.00 -19.00 น. แนะนำว่าควรมาถึงท่าเรือล่วงหน้า 30 นาที โดยเฉพาะช่วงวันหยุดหรือเทศกาลคนเยอะมากค่ะ

มีหลายคนถามว่าทำไมต้องไปไกลถึงตราด สุดเขตประเทศไทยขนาดนั้น จังหวัดใกล้ๆ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวฮิลใจมากมาย ทริปนี้ ททท. จะพาคุณไปค้นหาคำตอบพร้อมกัน แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมต้องเป็นเกาะช้าง จ.ตราด

เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กม. มีเนื้อที่ 429 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ น้ำตกคลองพลู น้ำตกธารมะยม แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พักที่มีให้เลือกหลายระดับ โรงแรมหรู รีสอร์ต เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร ภัตตาคาร คาเฟ่ สปา ฯลฯ

และมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัค เดินป่า ปีนเขา และกิจกรรมใหม่ล่าสุดที่เราจะมาตัดริบบิ้นกันเป็นกรุ๊ปแรก คือ Good Morning Koh Chang ล่องเรือรับอรุณ ชมวิถีชายฝั่งทะเล เรียกว่าครบจบในที่เดียว แค่นี้คงจะพอเป็นเหตุผลที่เราดั้นด้นมาไกลถึงเกาะช้างได้แล้วนะ

LE JaoJom Café Bistro & Bar : Relaxing Life, The Exclusive Place To Be

เรามาถึงเกาะช้างในช่วงบ่ายแก่ๆ ทุกคนเริ่มรู้สึกเมื่อยล้า อยากลงไปยืดเส้นยืดสายสัก เลยแวะเติมความสดชื่นกันที่ร้าน “เลอเจ้าจอม” ซึ่งเมื่อเดินเข้าไปในร้านก็ทำเอาทุกคนตะลึงกันไปเลย ว้าว! บนเกาะช้างก็มีร้านกาแฟเก๋ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ

Le JaoJom Café Bistro & Bar เป็นร้านอาหารและคาเฟ่ริมทะเลเกาะช้าง เปิดบริการมาประมาณ 5 ปีแล้ว ร้านตั้งอยู่ระหว่างหาดทรายขาวและหาดไชยเชษฐ์ ห่างจากท่าเรือประมาณ 8 กม. ภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นผสานความเป็นไทย (Northern Style) ตามความชื่นชอบของเจ้าของร้าน คือ เชฟอ๋อง บุญชนะ เกตแก้ว ซึ่งวันนี้ออกมาต้อนรับเราอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง

เชฟอ๋องเล่าถึงที่มาของชื่อร้านเลอเจ้าจอมว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากยอดเขาด้านหลังของร้านที่ชื่อว่า “เขาจอมปราสาท” แล้วมาเติมคำว่า “LE” ในภาษาฝรั่งเศสเข้าไป เพื่อระลึกถึงช่วงเหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง พ.ศ. 2484 จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน “LE JaoJom” ซึ่งถ้าเราเดินออกไปโซนเอ้าดอร์ด้านหลัง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก แล้วมองกลับมาจะเห็นเขาจอมปราสาทอยู่บนยอดเขา ในสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จมาที่เกาะช้างหลายครั้ง และได้สลักอักษรย่อ จปร. ไว้ที่เขาจอมปราสาท ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาะช้าง

สำหรับใครที่ชื่นชอบร้านกาแฟเก๋ๆ แนะนำให้มาเช็คอินที่เลอเจ้าจอมสักครั้ง รับรองไม่ผิดหวัง เพราะบรรยากาศดีมาก วิวสวยมาก การบริการประทับใจ เดินเข้ามาปุ๊บจะรู้สึกถึงความเงียบ สงบ ตัวร้านค่อนข้างโล่ง โปร่งสบาย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที สมกับสโลแกนของร้าน “Relaxing Life, The Exclusive Place To Be” รู้สึกเหมือนได้รีแลกซ์อย่างแท้จริง

ภายในร้านมีที่นั่งให้เลือกหลายโซน ทั้งอินดอร์และเอ้าดอร์ ทุกโซนสามารถมองเห็นทะเล มีห้องวีไอพีสำหรับคนที่มาเป็นหมู่คณะหรือครอบครัว ส่วนใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด แนะนำเป็นโซนเอ้าท์ดอร์ เมื่อเปิดประตูออกไปจะพบกับสนามหญ้าเขียวขจี ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มองออกไปเห็นวิวทะเลที่ทำให้รู้สึกใจฟูขึ้นทันที

เชฟอ๋องบอกว่าที่นี่เน้นเรื่องการบริการมาก ลูกค้าเดินเข้ามาปุ๊บจะได้รับการต้อนรับจากพนักงานในชุดซามูไรสุดเท่ แล้วพาคุณไปส่งถึงโต๊ะ พร้อมรับออเดอร์ จะไม่มีการให้ลูกค้ายืนคอยให้หงุดหงิดเสียอารมณ์ หรือลุ้นว่าจะมีที่นั่งหรือไม่ โดยทางร้านจะรับเฉพาะแขกที่โทรเข้ามาจองล่วงหน้า เพื่อให้ทุกคนได้ใช้เวลารีแลกซ์อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกดดันเวลามีคนมายืนคอย

ช่วงบ่ายแบบนี้ เชฟอ๋องจัดเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีมาเสิร์ฟ Wellness Afternoon Tea ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากธรรมชาติมารังสรรค์เป็นเมนูทั้งคาวและหวาน อาทิ สตรอเบอร์รี่ชีสมูส ซิกเนเจอร์ของทางร้าน เนื้อเค้กนุ่มละมุน รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี มีความกรุบของคุ้กกี้ทาร์ตด้านล่างสุด และชุดของคาว ประกอบด้วย กุ้งลายเสื้อเนื้อเด้ง หอยเชลล์โฮตาเตะเนื้อหนาหนึบหนับ ทาทาร์แซลมอน ส่วน “ชา” มีให้เลือก คือ ชาดอกไม้ 9 ชนิด ชาลิลลี่ ชาเก๊กฮวย ชาพีโอนี่ (ชาโบตั๋น)

วันนี้เชฟอ๋องจัดเมนูของหวานให้เป็นพิเศษ คือ “เครปซูเซส” พร้อมกับปรุงให้ทานกันแบบสดๆ เคล็ดลับอยู่ที่สับปะรดตราดสีทอง ที่ทำให้เครปมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ส่วนแป้งเครปของที่นี่เป็นสูตรหมัก เนื้อนุ่มละมุน เวลากัดจะรู้สึกถึงความนุ่มชุ่มฉ่ำด้วยน้ำซอสเปรี้ยวอมหวาน ทานคู่กับไอศกรีม ฟินมาก เชฟการันตีว่า “หนึ่งเดียวในจังหวัดตราด” หาทานได้ที่นี่เท่านั้น

ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกหลายหลาย อาทิ “มัทฉะลาเต้เย็น” ทางร้านใช้มัทฉะเกรดพรีเมี่ยม, “มัทโช” เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นเอง เป็นมัทฉะผสมโกโก้ เป็น Matcho อร่อยมากเช่นกัน และ Black Coffee Lemon Honey เหมาะกับสายสุขภาพ ให้ความหวานจากน้ำผึ้งแท้ๆ และความเปรี้ยวสดชื่นจากเลมอน อีกหนึ่งเมนูขายดีที่สายสุขภาพต้องสั่ง คือ “Refreshment Smoothies” ซึ่งรวมเบอร์รี่หลากหลายชนิด ผสมเข้ากับโยเกิร์ตธรรมชาติ ให้ความสดชื่นจากใบมิ้นต์และควานหวานจากน้ำผึ้ง ทานได้อย่างสบายใจ

เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกโต๊ะต้องสั่งคือ “Tiramisu Coffee” เป็นกาแฟที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง ผสมผสานระหว่างเครื่องดื่มและขนมหวานเข้าด้วยกัน แล้วรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล เวลาเสิร์ฟจะมีกิมมิคให้ว้าวนิดหนึ่ง คุณจะได้สัมผัสรสชาติกลมกล่อม หอม นุ่มละมุน

อาหารจานหลักมีให้เลือกทั้งอาหารไทยและต่างประเทศ อาทิ สปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำ หอยเชลล์โฮตาเตะทรัฟเฟิลครีมซอส ออนท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน, แซลมอนเบคอนผัดพริกแห้ง, หมูสับกับถั่วลันเตาผัดกะปิเกาะช้าง เป็นหนึ่งเมนูอาหารไทยที่พัฒนาความเป็นรากเหง้าและบ่งบอกถึงความเป็น “ชาวเกาะช้าง” ต้องลองมาชิม รับรองอร่อยทุกเมนู

เลอเจ้าจอมยังมีอาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน และเบเกอรี่ ให้เลือกกว่า 180 เมนู แต่ละเมนูไม่เพียงรสชาติดี แต่ยังตกแต่งหน้าตาสวยงาม พร้อมรับแขกทุกเมนูค่ะ

LE JaoJom Café Bistro & Bar เกาะช้าง เปิดบริการเวลา 11.00-21.00 น. โทร. 0616247932 มาเกาะช้าง ไม่รู้จะไปไหน แวะมาเลอเจ้าจอมนะคะ

ไปอาบทรายภูเขาไฟล้างพิษที่ The Retreat Koh Chang

อิ่มอกอิ่มใจกับอาหาร เครื่องดื่ม และวิวสวยๆ จากร้านเลอเจ้าจอมแล้ว ถึงเวลาของการรีแลกซ์อย่างแท้จริง เราจะพาคุณไปทำสปากันที่ The Retreat Koh Chang ไปเข้าคอร์ส Sand Bath ซึ่งเป็นโปรแกรมล้างพิษด้วยสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น (Japanese Sand Bath) ซึ่งเหมาะมากกับคนเมืองอย่างเราที่ดูดซับเอามลพิษเข้าไปสะสมในร่างกายจนหนักอึ้ง ดังนั้นต้องมาชำระร่างกายให้คลีนกันก่อน เพื่อเปิดรับพลังธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

Sand Bath เป็นศาสตร์ญี่ปุ่นที่ใช้พลังสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น ที่อุดมไปด้วยคลื่นฟาร์-อินฟาเรด หรือ FIR มาผสานกับพลังงานความร้อน จะช่วยกระตุ้นระบบเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้กำจัดของเสีย ไขมันเก่าที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในเม็ดสินแร่แต่ละเม็ดจะมีประจุลบอยู่ในตัวเอง เมื่อโดนความร้อน ประจุลบจะเข้าไปจับประจุบวกที่เป็นของเสียในร่างกาย และขับออกมาในรูปแบบของเหงื่อและการปัสสาวะ

ขั้นตอนการล้างพิษด้วยสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่นก็ไม่ยุ่งยากค่ะ หลังจากชำระล้างตัวให้สะอาดและเปลี่ยนชุดแล้ว นักกายภาพจะวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก และให้ดื่มน้ำ เนื่องจากระหว่างแช่สินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่นจะสูญเสียเหงื่อมากเป็นพิเศษ หลังจากนั้นก็ลงไปนอนแช่สินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น ระหว่างนั้นนักกายภาพจะค่อยๆ กลบสินแร่หินภูเขาไฟบนร่างกาย พร้อมกับทำการขัดและนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อด้วยเม็ดสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น บริเวณหน้าท้อง หลัง สะบัก หัวไหล่ ช่วงลำคอ แขน ขา และด้านหลังขา ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ไขมันที่สะสมตามอวัยวะต่างๆ ถูกกำจัดออกมา การล้างพิษด้วยสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่นจะช่วยขับของเสียได้ถึง 70-80% เลยทีเดียว

ระหว่างทำการแช่สินแร่หินภูเขาไฟ คุณจะรู้สึกสบายตัว และรู้สึกเลือดสูบฉีดดีขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะนักกายภาพบำบัดจะคอยสอบถามอาการ วัดชีพจร และซับหน้าด้วยผ้าเย็นเป็นระยะ โดยใช้เวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้น หลังขึ้นจากการลงแช่สินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น จะชั่งน้ำหนัก และวัดความดันอีกครั้ง เพื่อเช็คความเปลี่ยนแปลง

ประโยชน์จากการล้างพิษด้วยสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นการล้างพิษอย่างลึกถึงระดับเซลล์แล้ว ยังช่วยปรับระบบหมุนเวียนโลหิตให้ดีขึ้น คลายความตึงเครียดถึงเนื้อเยื่อระดับลึก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส และกระชับยิ่งขึ้น และควบคุมน้ำหนัก การทำ Sand Bath หนึ่งครั้ง จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่เทียบเท่ากับการวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว หลังจากทำเสร็จแล้วรู้สึกตัวเบา สบาย และสดชื่นมากค่ะ ใครอยากสัมผัสกับความรู้สึกดีๆ แบบนี้ แวะมาได้ที่ The Retreat Koh Chang

The Retreat Koh Chang reservation@theretreatkohchang.com โทร .+ 66 39 619 419, +66 917 366 777

“บ้านตาเกลือ” กินแบบชาวบ้าน สำราญแบบชาวประมง

หลังจากล้างพิษด้วยโปรแกรม Sand Bath กันแล้ว รู้สึกตัวเบา (ท้องว่าง – ฮา) พร้อมรับอาหารมื้อเย็นเต็มที่ วันนี้ ททท. ภาคตะวันออก จัดอาหารพื้นบ้านจังหวัดตราดมาให้เราได้ “ถึงตราด” ที่ร้าน บ้านตาเกลือ ค่ะ

“จากโกงกางสู่กลางกรุง” ใครเคยไปทานอาหารที่ร้าน “ศรีตราด” สุขุมวิท 33 ร้านอาหารพื้นบ้านตราด ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจของ คุณแม่ศรีรัตน์ ศรีภิญโญ ซึ่งเป็นสาวตราดโดยกำเนิด และมีความภาคภูมิใจในความเป็นชาวตราด โดยเฉพาะอาหารพื้นถิ่น และได้นำอาหารพื้นถิ่นตราดมาให้คนกรุงได้ลิ้มลอง โดยใช้วัตถุดิบจากตราดทั้งหมด “บ้านตาเกลือ” ก็คือต้นตำรับของ “ศรีตราด” นั่นเอง

บ้านตาเกลือ เป็นส่วนหนึ่งของ AANA Resort & Spa เกาะช้าง แต่แยกโซนกัน ลูกค้าทั่วไปสามารถมาใช้บริการได้ เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณร้าน สัมผัสได้ถึงความสงบร่มรื่นของบ้านไม้สองชั้นริมแม่น้ำ และความเย็นสดชื่นจากสายน้ำคลองพร้าว บรรยากาศเหมือนเรากำลังมากินอาหารบ้านเพื่อน โดยมีคุณแม่ศรีรัตน์และคุณโรส ลูกสาว รอต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น และเตรียมอาหารพื้นบ้านตราดมาเสิร์ฟให้พวกเราได้ลองทานกัน

บรรยากาศบ้านตาเกลืออบอุ่นเหมือนบ้าน ภายในบ้านมีเคาน์เตอร์บาร์เก๋ๆ บริการเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบ ส่วนที่นั่งแบ่งเป็นโซนอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ และบริเวณระเบียงริมน้ำซึ่งจัดเป็นที่นั่งแบบโซฟา เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ นั่งมองสายน้ำพลิ้วไหวไกลสุดสายตา

บ้านตาเกลือ มีทั้งเมนูแบบเซ็ต “สำราญเล” เล็ก กลางใหญ่ สามารถเลือกสั่งได้ และเมนูอะลาคาส์ท วันนี้คุณแม่ศรีรัตน์จัดเต็มอาหารไทยและอาหารพื้นถิ่นที่อุดมไปด้วยพืชผักสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพมาให้ลิ้มลองกันแบบจุกๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้มส้มปลากะพง รสชาติเข้มข้น เนื้อปลาสดมาก ใบโกงกางสอดไส้ทอด โกงกางใบอ่อนชุบแป้งทอดกรอบมาก สอดไส้หมูหรือกุ้ง ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวหวาน แทบจะไม่รู้สึกว่าทานใบไม้เลย

อีกเมนูที่ชอบมากคือ น้ำพริกกุ้งสด ทานคู่กับผักปลอดสาร โดยเฉพาะมะเขือเปราะลูกเล็กๆ หวานกรอบ จนต้องร้องขอเพิ่ม ไก่ต้มกระวาน มาถึงที่นี่ไม่ทานกระวาน ก็เหมือนมาไม่ถึงตราด เช่นเดียวกับ แกงชะมวง ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของอาหารท้องถิ่น ภาคตะวันออก พล่าเนื้อปลาน้ำดอกไม้ เนื้อปลาแล่เป็นชิ้นบางๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มถั่วตัด กรุบกรอบ หรือทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็สดแซ่บซี๊ดมาก นอกจากนี้ยังมี หมึกผัดวุ้นเส้นกะปิ, หมูสับปลาเค็มตราด, ไข่ตุ๋นกุ้งสด ฯลฯ

หลังจากอิ่มหนำแบบชาวบ้าน สำราญแบบชาวประมงแล้ว ใครใคร่นั่งชิลล์ต่อริมแม่น้ำ รับลมเย็นๆ จิบเครื่องดื่มเบาๆ เขาก็จัดโซนที่นั่งริมแม่น้ำเอาไว้ให้ หรือจะล่องเรือชมหิ่งห้อยทางร้านก็มีบริการ ถ้ามาช่วงเดือนมืดจะเห็นหิ่งห้อยชัดมาก อ้อ! ลืมบอกว่าในช่วงหัวค่ำมีการแสดงควงกระบองไฟให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันด้วยนะ

เป็นค่ำคืนที่มีความสุข เต็มอิ่ม ได้กินอาหารพื้นถิ่นที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใส่ชูรสหรือน้ำมันหอย แต่เป็นรสชาติแท้ๆ ของวัตถุดิบที่สดใหม่ ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างดีและกะปิหรือเคย ซึ่งเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นของภาคตะวันออก การได้กินอาหารที่สดใหม่ ปราศจากสารเคมี ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ถือเป็น Wellness ที่ดีต่อร่างกายและจิตใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าคอร์สที่ไหนให้ยุ่งยาก แค่วันแรกบนเกาะช้างก็อิ่มเอมใจแล้ว พรุ่งนี้ยังมีกิจกรรมดีๆ รอเราอยู่อีกเพียบค่ะ

บ้านตาเกลือ เกาะช้าง

พิกัด https://maps.app.goo.gl/CnwSucvLhfZrccmR9

สำรองโต๊ะล่วงหน้า : โทร 098-484-2111 สั่งอาหารล่วงหน้า: facebook บ้านตาเกลือ https://www.facebook.com/BaanTaKlua/?locale=th_TH

ทิ้งตัวบนฟูกที่ Centara Tropicana Koh Chang หลับใหลในความอ้อมกอดธรรมชาติ

ทริปนี้ ททท. จัดให้เราพักที่ Centara Tropicana ซึ่งเป็นรีสอร์ทเก่าแก่มีชื่อเสียงของเกาะช้าง เป็นรีสอร์ทหรูติดทะเล หาดคลองพร้าว ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด บรรยากาศโดยรวมเป็นสวนป่าเขตร้อนชื้น มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบวิลล่าเป็นหลัง และแบบเป็นห้องพัก กว่า 150 ห้อง มีทั้งวิวสวนและวิวทะเล

หลังที่เราพักเป็นแบบวิลล่า ติดสวน มีระเบียงหน้าบ้านให้นั่งเล่น ภายในตกแต่งสไตล์ทรอปิคาน่าให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ในโทนสีอบอุ่น แต่เสียดายที่เราไม่มีเวลาให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศมากนัก เข้าห้องได้ก็ทิ้งตัวลงบนเตียงเลย เพราะเหนื่อยมาทั้งวัน แถมพรุ่งนี้เรามีนัดล่องเรือรับอรุณตอนตีห้าครึ่ง…Good night ค่ะ

Centara Tropicana Koh Chang

เว็บไซต์ https://www.centarahotelsresorts.com/centara/th/

ติดต่อจองห้องพัก โทร. 039 557122, 039 55-7124

Good Morning Koh Chang ล่องเรือรับอรุณเกาะช้าง

เหตุผลที่ทำให้เราต้องลุกจากที่นอนแสนสบายตอนเช้ามืดคงมีไม่บ่อยนัก และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เราต้องดึงตัวเองขึ้นจากเตียงนอนตอนตีห้า เพื่อไปล่องเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ท่าเรือไชยเชษฐ์ ตอนเราออกจากห้องพัก ท้องฟ้ายังมืดมิด จนต้องอาศัยแสงไฟจากสมาร์ทโฟนส่องนำทาง สุดจริงๆ ค่ะ!

เรามาถึงท่าเรือไชยเชษฐ์เวลาตีห้าครึ่ง ยามนี้ท้องฟ้ายังเป็นสีน้ำเงินเข้ม สวยแปลกตา พอมาถึงก็ได้กลิ่นหอมๆ ของกาแฟสดจากร้าน Tastory ซึ่งยกมาให้บริการถึงท่าเรือไชยเชษฐ์ หลังจิบกาแฟให้ตื่นตัวแล้ว ทุกคนก็พร้อมลงเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลกันแล้วค่ะ และอย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า Good Morning Koh Chang เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งแรก โดยสมาคมการค้าตราดเวลเนส (Trat Wellness & Safety Tourism) และเราก็เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะได้มาใช้บริการ ว้าว! รู้สึกตื่นเต้นจัง

เรือที่ใช้ล่องรับอรุณครั้งนี้เป็นเรือประมงของชาวบ้าน เป็นเรือยนต์ขนาดเล็กนั่งได้ 2 คน และขนาดกลางนั่งได้ 4 คน เป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชน โดยจะให้บริการวันละครั้ง ตั้งแต่เวลา 05.30-07.30 น. ใช้เวลาล่องไปกลับไม่เกิน 2 ชั่วโมง มีบริการกาแฟและอาหารเช้าบนเรือให้ด้วย

เรือเริ่มออกเดินทางจากท่าเรือไชยเชษฐ์ เลี้ยวซ้ายไปทางคลองพร้าว ลัดเลาะไปทางหาดไข่มุก หาดทรายขาว ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวหลายแห่ง เช่น แหลมไชยเชษฐ์ที่มีโขดหินรูปร่างต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเล ปกติเราจะคุ้นเคยกับมุมมองจากบนฝั่ง ซึ่งแหลมไชยเชษฐ์จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด แต่เมื่อมองจากทะเลขึ้นไปเป็นภาพที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ

ผ่านหาดไข่มุกซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟเก๋ๆ อย่าง ร้าน LE JaoJom, ร้าน Tastery หาดไข่มุกเป็นชายหาดที่มีความสงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการพักผ่อน ชายหาดเป็นหินก้อนเล็กๆ กลมมนที่เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นเป็นเวลานาน ใกล้กันเป็นเขตของกองทัพเรือ มีศาลเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา เรือล่องผ่าน “หาดทรายขาว” ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะมีความสวยงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ฯลฯ เรียกว่าเป็นดาวน์ทาวน์ของเกาะช้างเลยก็ว่าได้ ล่องเรือมาถึงหาดผาถ้ำก่อนจะวนกลับท่าเรือไชยเชษฐ์

คุณโอ๋ จารุวรรณ จินตกานนท์ นายกสมาคมการค้าตราดเวลเนส เล่าให้ฟังว่า Good Morning Koh Chang เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ดีต่อกายและใจ เป็นการท่องเที่ยวแบบเวลเนส ความเป็น wellness คือ การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ได้ทานอาหารที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ ปราศจากสารเคมี การได้รับพลังจากแสงอาทิตย์ยามเช้า เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

การล่องเรือรับอรุณ ชมพระอาทิตย์ขึ้น เหมือนเป็นการรับพลังจากธรรมชาติ เราเริ่มล่องเรือกันตั้งแต่ท้องฟ้ายังเป็นสีน้ำเงิน จนแสงสีทองระเรื่อของดวงอาทิตย์ค่อยๆ ทอทาบขอบฟ้า สวยงามจับใจ คุ้มค่ากับการลุกจากที่นอนตอนตีห้า เมื่อล่องเรือไปเรื่อยๆ แสงอาทิตย์เริ่มเจิดจ้าขึ้นเป็นลำดับ แดดยามเช้าทอประกายกระทบกับผืนน้ำระยิบระยับ แนะนำให้เอาหมวกกับผ้าพันคอหรือเสื้อกันหนาวติดมาด้วยนะคะ

ระหว่างล่องเรือเราจะชมวิถีชีวิตยามเช้าของชุมชน ชาวประมงที่ออกหาปลา ซึ่งเราสามารถขอซื้อปลาสดๆ กันกลางทะเลจากชาวประมงได้เลย เป็นบรรยากาศที่ไม่พบบ่อยนัก ภาพเด็กๆ ที่กำลังเดินทางไปโรงเรียน ชาวบ้านที่ออกมาทำกิจวัตรยามเช้า เป็นภาพวิถีชุมชนอีกมุมหนึ่งซึ่งเราไม่ค่อยได้สัมผัส

บังเอิญว่าวันที่เราล่องเรือเป็นวัน Clean Day ของชาวเกาะช้าง ซึ่งสมาคมการค้าตราดเวลเนส และกลุ่มอาสาสมัครเทรชฮีโร่ (TRASH HERO) พาอาสาสมัครมาปฎิบัติภารกิจพิชิตขยะ เราก็เลยได้เห็นภาพอาสาสมัครมาเก็บขยะทะเลบนชายหาดกันแบบใกล้ชิด และได้เห็นกับตาว่าขยะทะเลมีเยอะมากจริงๆ เศษขยะที่ถูกคลื่นพัดพามาที่หาดสูงขึ้นไปถึงโขดหิน ปรบมือให้เทรซฮีโร่ทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันพิทักษ์ทะเลและชายหาดให้สะอาดน่าเที่ยว

สนใจกิจกรรม Good Morning Koh Chang ติดต่อที่ ททท. สนง.ตราด โทร.039 597 260 และเพจของสมาคม Trat Wellness & Safety Tourism

BRUNCH (มื้อสาย) อาหารพื้นบ้าน ที่ระเบียงไชยเชษฐ์

หลังจากล่องเรือรับอรุณแล้ว กลับที่พักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ท้องก็เริ่มร้อง เราแวะทานอาหารกันที่ระเบียงไชยเชษฐ์ ซึ่งตั้งอยู่ในไชยเชษฐ์ รีสอร์ท ติดทะเล เป็นอาหารพื้นถิ่น ซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่น (Wellness Menu)รสชาติไม่จัดจ้านมาก เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

เวลเนสเมนูแรก คือ จื๊อปลา เป็นปลาต้มรสชาติคล้ายต้มส้ม ใส่ขิงซอย เพิ่มรสชาติและความหอม, เคยสลัดโรล (เคยเป็นสัตว์ทะเลคล้ายกุ้ง แต่ตัวเล็กมากๆ นำมาทำกะปิ), เคยยำตะไคร้, เคยยำสับปะรดตราดสีทอง, กุ้งนึ่งกระเทียมโทน, ปลากะพงขาวนึ่งน้ำพริกถั่วตัด และไม่ลืมที่จะนำปลาที่ซื้อจากชาวเรือเมื่อเช้าตอนออกไปล่องเรือ มาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดด้วย เรียกว่าได้ทานอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่จริงๆ สดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ร้านอาหารระเบียงไชยเชษฐ์ โทร.(+66)39-510-595 , (+66)91-429-4559 , (+66)93-116-6636

จุดชมวิวหาดไก่แบ้ ใครไม่มาเช็คอินถือว่าพลาด!

อิ่มแปล้แล้วไปเดินเล่นย่อยอาหารกันที่จุดชมวิวไก่แบ้ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเกาะช้าง ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือหาดไก่แบ้ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของท้องทะเลและเกาะใกล้เคียงได้แบบพาโนราม่า ไม่ว่าจะเป็นเกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะหยวก และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกด้วย เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกันหนาแน่น รวมทั้งพวกเราด้วย หลังจากนี้เราจะไปฟื้นฟูสุขภาพกันที่ The Spa Koh Chang Resort

ช่วงเวลาฮิลใจที่ The Spa Koh Chang Resort ‘The Art of A Healthy Good Time’

The Spa Koh Chang เป็นรีสอร์ทเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ บนเกาะช้าง ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ท่ามกลางธรรมชาติของป่าชายเลน ห้องพักมีเพียง 19 ห้อง และจองเต็มตลอดทั้งปี แต่แค่ได้มาสัมผัสบรรยากาศโดยรอบของเดอะสปาเกาะช้างรีสอร์ทก็รู้สึกฮิลใจแล้ว บรรยากาศสงบร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ใครคิดจะหลีกลี้จะโลกภายนอก แนะนำให้มาซ่อนตัวที่นี่เลยค่ะ

วันนี้เรามีนัดเข้าร่วมกิจกรรม Sound Bath กัน แต่ก่อนอื่นเราขอแวะนั่งพักจิบน้ำและของว่างที่ The Spa Café ซึ่งตั้งอยู่ใน The Spa Koh Chang เพราะมีคนบอกว่าอาหารที่นี่อร่อยมาก เชฟปูน คุณธิติ อ่อนอินทร์ จบจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ เลยต้องไปท้าพิสูจน์กันหน่อย

พอเดินเข้ามาก็ได้กลิ่นหอมของอาหารอบอวลไปทั่วบริเวณ จนต้องเดินไปชมใกล้ๆ เชฟกำลังปรุงอาหารว่างให้พวกเรา เคซาดิญญ่า เป็นเนื้อแพลนต์เบสผัดกระเพรา น้ำจิ้มซัลซ่าแดงกับซอสโยเกิร์ตพาร์เมซาน ท็อปด้วยผักชีลาว ลืมบอกว่าที่นี่ค่อนข้างจะเน้นอาหารสุขภาพ ปรุงด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ตอนแรกก็ว่าจะทานพอเป็นพิธี เพราะยังอิ่มกับมื้อสายอยู่เลย แต่พอได้ตักเข้าปากคำแรก โหยแผ่นแป้งนุ่มมาก ไส้ข้างในก็รสชาติกลมกลม เผลอแปบเดียว หมดจาน (ฮา) ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย ชา กาแฟ เชฟปูนแนะนำเป็นน้ำอ้อยมะปรี๊ด โปรไบโอติก ดีต่อสุขภาพอีกแล้ว แก้วนี้ช่วยย่อย สบาย แหม! เหมือนรู้ใจ

Sound Bath ศาสตร์บำบัดด้วยคลื่นเสียง

แล้วก็มาถึงกิจกรรมที่เรารอคอย Sound Bath หลายคนคงเคยได้ยินศาสตร์นี้กันมาบ้างแล้ว เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียด กังวล นอนไม่หลับเพิ่มมากขึ้น Sound Bath คือการทำสมาธิหรือการผ่อนคลายจิตใจและร่างกายด้วยเสียงจากเครื่องดนตรีหรืออุปกรณ์ที่สร้างคลื่นเสียงต่างๆ เพื่อช่วยลดความเครียด สร้างสมาธิ และปรับสมดุลทางอารมณ์

ร่างกายของคนเราก็เหมือนฟองน้ำ ที่ดูดซับมลพิษเข้าไปสะสมในร่างกายทุกวัน ถ้าไม่กำจัดออก ก็จะเกิดภาวะเครียด นอนไม่หลับ พลังงานในร่างกายถดถอย การทำซาวด์บาธจะช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ช่วยให้สมองเข้าสู่ภาวะสมาธิ ฟื้นฟูพลังงานและลดความเหนื่อยล้า ปรับสมดุลทางอารมณ์ ปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย และช่วยการนอนหลับ

ปกติการทำ Sound Bath จะต้องทำในสภาพแวดล้อมที่สงบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เราจะได้ทำซาวด์บาธกลางลานบ้านที่เปิดโล่ง โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ในบรรยากาศสงบเงียบ โดยนักบำบัดจะให้ผู้เข้าร่วมนอนหลับตาในท่าสบาย ปล่อยใจให้เป็นอิสระ ขณะฟังเสียงจากอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดคลื่นเสียง เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังงาน ลดความตึงเครียด และเชื่อมโยงตัวเองในระดับที่ลึกขึ้น แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เมื่อตื่นขึ้นมากลับรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมือนได้หลับลึก ทั้งที่ได้ยินสรรพเสียงรอบตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเสียงบรรยายและเสียงโบว์จากนักบำบัด เสียงลมพัด เสียงใบไม้ปลิว เสียงน้ำไหล เสียงปลากระโดดจ๋อม ฯลฯ

การมาเกาะช้างครั้งนี้ได้บำบัดทั้งร่างกายกับโปรแกรม Sand Bath ล้างพิษด้วยสินแร่หินภูเขาไฟจากญี่ปุ่น ที่ The Retreat Spa และชำระจิตใจด้วยโปรแกรม Sound Bath ศาสตร์การบำบัดด้วยเสียง ที่ The Spa Koh Chang Resort ครบถ้วนกับทริปฟื้นฟูสุขภาพด้วยธรรมชาติ Rebalance by Nature เกาะช้าง

The Spa Koh Chang Resort เกาะช้าง โทร.+66 (0) 80 964 7614 เว็บไซต์ www.thespakohchang.com

อาบป่าโกงกางที่อ่าวสลักคอก Mangrove Forest Bathing

โปรแกรมท่องเที่ยว Rebalance by Nature เการะช้างครั้งนี้เกือบจะไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ได้ล่องเรือชมป่าโกงกางที่อ่าวสลักคอก หลังจากจบการทำซาวด์บาธ ฝนตกหนักและนานมาก ทำให้เวลาล่วงเลยไปถึง 5 โมงเย็น ตามโปรแกรมกิจกรรมอาบป่าโกงกางคือ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ต้องขอบคุณ คุณโอ๋ นายกสมาคมการค้าตราดและเวลเนส ที่เป็นธุระจัดการให้เราได้ล่องเรือตามโปรแกรมที่วางไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

ฟ้าหลังฝนท้องฟ้าย่อมสดใสเสมอ เห็นจะเป็นเรื่องจริง เพราะช่วงฝนตกใหม่ๆ ป่าโกงกางฉ่ำน้ำ บรรยากาศสดชื่น เย็นสบาย น้ำใสสะอาด มีสายหมอกเบาๆ ระเรี่ยอยู่บนยอดเขา กอปรกับเราเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายของวันนี้ ท้องน้ำแห่งนี้จึงเป็นของเราโดยปริยาย

เราลงเรือที่ท่าเรือบ้านสลักคอก เป็นเรือพายมาดลำเล็กๆ นั่งได้ประมาณ 4 คน ฝีพายก็เป็นสมาชิกของชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอกนั่นแหละค่ะ อาชีพหลักเป็นชาวประมง ยามว่างก็มาพายเรือรับนักท่องเที่ยว ค่าบริการคนละ 200 บาท การล่องเรือใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที จากบ้านสลักคอกถึงปากอ่าวแล้วล่องกลับ

ระหว่างนั่งเรือก็จินตนาการว่าตัวเองกำลังนั่งเรือกอนโดล่าล่องไปตามลำน้ำ โอบล้อมด้วยป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ ปลดปล่อยร่างกายจิตใจจากพันธนาการทั้งหมด หลับตา ฟังสรรพเสียงรอบตัว แล้วลองเอามือสัมผัสกับน้ำที่เย็นใสดู เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด ขอยืมคำพูดของพี่จองว่า “ใจฟู” มันเป็นแบบนี้นี่เอง! อยากจะหยุดเวลาไว้ที่นี่สักชั่วโมง

ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ccnKs6xHVUuG8JGB9

โทร.+66 87 748 9497

บัณฑิตบาร์ ร้านอาหารชูใจ วิวหลักล้าน

เรือมาดมาเทียบท่าที่ร้านอาหารชื่อเก๋ “บัณฑิตบาร์” ซึ่งเป็นมื้อดินเนอร์ของเราในค่ำคืนนี้ ตัวร้านเป็นเหมือนเพิงไม้ชั้นเดียวอยู่ติดริมน้ำ มุงด้วยสังกะสี พื้นเป็นไม้กระดาน พอขึ้นจากเรือสามารถเดินเข้าไปนั่งในร้านได้เลย ด้านหน้าเปิดโล่ง มองเห็นวิวแม่น้ำแบบอลังการ ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา แม้ว่าท้องจะร้องและอาหาพร้อมเสิร์ฟแล้ว แต่วิวตรงหน้าสวยเกินห้ามใจ ต้องยกกล้องมือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้ก่อนที่แสงสุดท้ายจะหมดลง

บัณฑิตบาร์เป็นร้านอาหารเล็กๆ มีที่นั่งไม่กี่โต๊ะ ที่นั่งเป็นโต๊ะไม้เตี้ยๆ และแบบนั่งพื้น เรานั่งล้องวงกันเหมือนมานั่งทานข้าวบ้านคุณลุงข้างบ้าน บรรยากาศอบอุ่นมาก คุณลุงเจ้าของร้านอัธยาศัยดี เดินมาแวะเวียนมาทักทายลูกค้า และแนะนำเมนูแต่ละจาน ทำให้ได้รู้ว่าที่ร้านนี้เขาใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติจริงๆ เขาจะนำปลาสดๆ จากเม่น้ำที่จับได้ตามฤดูกาลมาปรุงเป็นอาหาร เพราะฉะนั้นเมนูปลาก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่วัตถุดิบที่หาได้

ดูจากเมนูแล้วเหมือนจะเป็นอาหารพื้นบ้านธรรมดา (แต่ไม่ธรรมดา) นอกจากเมนูทั่วไปแล้วยังมีอาหารญี่ปุ่นอย่างซาซิมิกุ้งมังกรและซาซิมิปลาน้ำดอกไม้สดๆ ให้ทานด้วย จิ้มกับวาซาบิสดฉุนขึ้นจมูกเลย อาหารทะเลที่นี่สดมาก ไม่ว่าจะเป็น ปลา กุ้ง กั้ง ปลาหมึก นำมาปรุงอาหารแบบไหนก็อร่อย ชอบความเป็นพื้นบ้านแม้แต่จานที่เสิร์ฟก็เป็นจานสังกะสีที่เราไม่ค่อยได้เห็นแล้ว เป็นมื้อค่ำที่ทุกคนเอ็นจอยกันมาก เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วคุ้งน้ำ เหมือนกำลังมาปาร์ตี้บ้านเพื่อน เป็นความสุขที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติอันพิสุทธิ์

บัณฑิตบาร์ บ้านสลักคอก เกาะช้าง Ban Dit Bar โทร.+66 82 478 2194

ค่ำคืนนี้ทุกคนนอนหลับฝันดี กลับมาที่ Centara Tropicana Koh Chang อีกครั้ง รุ่งเช้าตื่นขึ้นมารับอรุณที่ชายหาดคลองพร้าว บรรยกาศสงบเงียบ สวยงามมาก พร้อมรับประทานอาหาเช้าที่ห้องอาหารซีบรรซซึ่งอยู่ติดชายหาด มีอาหารให้เลือกหลายสไตล์ ทั้งอาหารฝรั่ง อาหารไทย อาหารพื้นบ้าน ชา กาแฟ น้ำผลไม้ และกาแฟโบราณ อิ่มแล้วเดินเล่นในสวนที่ร่มรื่นของโรงแรม ก่อนเช็คเอ้าท์กลับบ้าน

จบทริป Rebalance by Nature เกาะช้าง 3 วัน 2 คืน ขอบคุณ ททท. ภาคตะวันออก ที่ชวนเรามาเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่อิ่มเอมกับกิจกรรมและโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพ (Wellness) ไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้นบ้านจากวัตถุดิบธรรมชาติ สปาบำบัด Sand Bath, Sound Bath และรับพลังบริสุทธิ์จากธรรมชาติของเกาะช้าง จ.ตราด แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตราด โทร. 039 597 259-60 เว็บไซต์ http://www.tourismthailand.org/trat เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/tattratoffice/?locale=th_TH

ขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาค ภาคตะวันออก / คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. และภาพสวยๆ จากเพื่อนร่วมทริปทุกคน

#สีสันตะวันออก

#สุขทันทีที่เที่ยวตราด

#สุขทันทีที่เที่ยวเกาะช้าง

#ที่เที่ยวเกาะช้าง