สำหรับคนที่มีเวลาน้อย แต่อยากจะหาโอกาสไปพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือหลีกลี้หนีความวุ่นวายของวิถีคนเมืองชั่วคราว เพื่อไปชาร์จแบต เติมพลังให้ตัวเองแล้วละก้อ เรามีหนึ่งสถานที่อยากแนะนำให้คุณลองไปสัมผัสกัน อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ รถไฟฟ้า BTS ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึง “สมุทรปราการ” จังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงกรุงเทพฯ นี่เอง รับรองว่าทริปนี้คุณจะ “สุขทันทีที่เที่ยวสมุทรปราการ” ค่ะ

ทริปนี้เราตามรอย “ผอ.เกด” กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดินทางท่องเที่ยวสมุทรปราการ แบบ one day trip พร้อมทำกิจกรรมสนุกๆ สไตล์สีสันตะวันออก เราเริ่มสตาร์ทจากกรุงเทพฯ เวลา 8.30 น. ทริปนี้เดินทางแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงสมุทรปราการแล้ว จุดหมายแรกที่เราจะพาคุณไปปล่อยจอยคือ “ชุมชนบางกอบัว” ที่นี่คุณจะสัมผัสกับบรรยากาศที่ร่มรื่นของธรรมชาติ ทำกิจกรรมย้อมผ้า DIY และชิมเมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือหนึ่งเดียวของไทย

สัมผัสวิถีชุมชนบางกอบัว บางกะเจ้า เสน่ห์เส้นทางท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ชุมชนบางกอบัว ได้รับรางวัล TTA รางวัลยอดเยี่ยม (กินรีทอง) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ เพื่อความยั่งยืน และรางวัลดีเด่น (กินรีเงิน) สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เป็นชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้คุณเลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ ทำลูกประคบสมุนไพร กิจกรรมพายเรือชมวิถีริมคลองแพ พายเรือเก็บขยะ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม ของว่าง และอาหารพื้นถิ่น ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

วันนี้เราเลือกทำกิจกรรมผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ โดยวัตถุดิบที่หาได้ในชุมชนบางกอบัว อาทิ ลูกจาก ใบหูกวาง แก่นฝาง ขมิ้น ดาวเรือง และใบพิลังกาสา ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเลยค่ะ เลือกผืนผ้าและลวดลายที่ต้องการ เช่น ลายดอกไม้ มะลิ กุหลาบ ลายหัวใจ ลาย “กระเพาะหมู” ที่เป็นสัญลักษณ์ของ “บางกะเจ้า” แล้วทำการมัดลายด้วยอุปกรณ์ เช่น หนังยาง ไม้ไอติม ลูกแก้ว ก้อนหิน ฯลฯ

จากนั้นนำไปย้อมในสีที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ วันนี้มีให้เลือก 2 สี คือ สีแดงจากแก่นฝาง และสีเหลืองจากขมิ้นผสมดาวเรือง เมื่อนำผ้าที่มัดลายแล้วลงไปจุ่มลงในน้ำแล้ว ขยำให้น้ำซึมเข้าไปในผ้าให้ทั่วถึง ทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อแกะหนังยางที่มัดลายออก จะได้ผ้ามัดย้อมลายสวยฝีมือตัวเอง กิจกรรมนี้สนุกตรงที่ได้ลุ้นว่าลวดลายที่ตัวองทำจะออกมายังไง นอกจากจะได้เรียนรู้การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ ด้วยวิธีย้อมเย็น (ไม่ใช้ความร้อน) ยังได้ผ้ามัดย้อมลวดลายและสีสันเป็นของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร กลับบ้านไปเป็นของฝากอีกด้วย เป็นกิจกรรมที่ทั้งภูมิใจและอิ่มใจสุดๆ

ระหว่างที่รอลุ้นผ้ามัดย้อม ทางชุมชนจัดเครื่องดื่มและของว่างมาเสิร์ฟ คือ น้ำตะลิงปริงคั้นสด รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่นมาก และของว่างที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ คือ เมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ ซึ่งแตกต่างจากเมี่ยงกลีบบัวที่เราเคยทานทั่วไป ตรงที่เค้าจะผสมมะพร้าวคั่วกับน้ำเมี่ยงคำคลุกเคล้าให้เข้ากัน หน้าตาเหมือนพริกเกลือ ทำให้ทานได้สะดวกมากขึ้น ถ้าติดใจสามารถสั่งกลับบ้านได้ด้วยค่ะ

แล้วก็มาถึงกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ คือ ล่องเรือคลองแพ ชมความร่มรื่นจากพืชพันธุ์แบบดั้งเดิม สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบางกอบัว ที่มักทำการเกษตรแบบขุดท้องร่อง สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าจาก ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นของบางกะเจ้า พร้อมสูดโอโซนบริสุทธิ์ตลอดเส้นทาง

นอกจากจะสัมผัสธรรมชาติอย่างอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังได้รับฟังเรื่องราวความเป็นมาของคลองแพและวิถีชุมชนบางกอบัว แถมยังได้ฟังเพลง “เห่เรือ” จากฝีพายแบบสดๆ ชวนเคลิบเคลิ้มเหมือนตกอยู่ในภวังค์ นี่แหละมนต์เสน่ห์ของการล่องเรือชมคลองแพ ชุมชนบางกอบัว ความสุขใกล้กรุงเทพฯ ที่คุณสัมผัสได้ทันทีที่มาสมุทรปราการ

ชุมชนบางกอบัว ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร.090 986 7989 เฟซบุ้ก : ท่องเที่ยวบางกอบัว คุ้งบางกะเจ้า

“ขึ้นวัง” ร้านอาหารลับตำรับชาววัง

มื้อกลางวันนี้ เราพาคุณไปทานอาหารชาววังกันที่ร้าน “ขึ้นวัง” แบบไม่ต้องเข้าวัง ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะว่าที่นี่จะมีร้านอาหารระดับเชฟเทเบิลซ่อนตัวอยู่ ขึ้นวังเป็นร้านลับๆ ที่ตอนนี้เราว่าคงไม่ลับอีกต่อไป แต่ถ้าใครอยากตามมากิน ร้านนี้เขาต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะคะ จะมาจัดเลี้ยง ปาร์ตี้ สังสรรค์ ทางร้านจัดเตรียมเมนูอาหารด้วยวัตถุดิบในพื้นที่และตามฤดูกาล นำมารังสรรค์เมนูอาหารอาหารไทย ตามหลักกินอาหารให้เป็นยา บางเมนูเป็นอาหารโบราณตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีให้เลือกทั้งเป็นแบบเซตหรืออาหารจานเดียว

ชอบบรรยากาศร้านที่เป็นเหมือนบ้าน เดินเข้ามาจะมีที่นั่งในสวนเล็กๆ ตกแต่งด้วยต้นไม้ที่เจ้าของร้านปลูกขาย และให้ความร่มรื่นไปด้วย ขึ้นวังเป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งทั้งโซนเอ้าท์ดอร์และอินดอร์ ภายในร้านแบ่งเป็น 2 โซน สำหรับจัดเลี้ยงแบบกันเอง แต่ไม่รู้สึกว่าอึดอัด เพราะล้อมรอบด้วยกระจกใส มองเห็นวิวต้นไม้สีเขียว ให้ความรู้สึกร่มรื่น โดยทางร้านจัดโต๊ะและวางเมนูไว้อย่างสวยงาม พร้อมสำหรับรับแขกที่สั่งจองไว้

เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย การะเกดสำรับต้น ประกอบด้วย เมี่ยงคำกลีบบัวหลวง ที่จัดวางมาอย่างสวยงามน่ากิน ขนาดพอดีคำ จัดมาให้ทั้งแบบกลีบบัวหลวงและใบชะพลู ใครได้ลองชิมแล้วรับรองหยุดไม่ได้

เมนูต่อมาคือ “ม้าห้อ” เป็นเครื่องว่างที่อยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในรัชกาลที่ 2 ไส้คล้ายสาคูวางบนผลไม้รสเปรี้ยว เช่น สับปะรดหรือส้ม ม้าห้อส้มแก้ว ใช้ส้มแก้วหรือส้มเทพรส ซึ่งเป็นหนึ่งในส้มที่ดีที่สุด ปลูกได้ที่สมุทรปราการ จัดแบบพอดีคำ ทานง่าย ไส้หมูสับรสชาติเปรี้ยวหวาน ตัดกันกับความหวานอมเปรี้ยวของส้มแก้ว เมนูนี้หลายคนได้ชิมแล้วชอบมาก

ยำผักกูดกุ้งสดแนมใบพิลังกาสา (ผักสามน้ำคุ้งบางกะเจ้า) เมนูสำหรับคนรักสุขภาพ ยำผักกูดจานนี้น้ำยำเปรี้ยวหวานจัดจ้าน กุ้งสดเนื้อเด้ง โรยด้วยหอมเจียว ทานคู่กับผักพื้นถิ่นทอดกรอบ คือ “พิลังกาสา” เป็นพืชน้ำในคุ้งบางกะเจ้า มีสรรพคุณต้านมะเร็งตับ เมื่อนำมาชุบแป้งทอดกรอบ ทานแล้วไม่รู้เลยว่าเป็นผัก เด็กๆ ทานได้ แถมชอบด้วย

อีกหนึ่งเมนูที่เหมือนเป็นอาหารพื้นบ้านทั่วไป แต่รสชาติไม่ธรรมดา คือ น้ำพริกผักชีกุ้งสับ แนมด้วยผักสดอินทรีย์ และไข่เป็ดไล่ทุ่งต้มแบบยางมะตูม น้ำพริกผักชีเป็นเมนูที่หาทานยาก ผักชีมีสรรพคุณช่วยบำรุงไต บำรุงสมอง ส่วนไข่เป็ดไล่ทุ่งมีฤทธิ์เย็น ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย รสชาติน้ำพริกกลมกล่อมกำลังดี ไม่เผ็ดมาก หอมกลิ่นผักชีอวลในปาก เพิ่งเคยทานครั้งแรก แต่ติดใจจนอยากกลับมาทานอีก

มัสมั่นไก่นุ่มเม็ดบัว เป็นเมนูอาหารในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในรัชกาลที่ 2 มัสมั่นไก่เนื้อนุ่มมาก นอกจากมันฝรั่งแล้วยังใส่เม็ดบัวลงไปด้วย รสชาติออกรสหวานนิดๆ มีความหอมของเครื่องเทศ อย่างอบเชย ทานคู่กับอาจาด ฟินมาก บอกเลยว่ามัสมั่นที่นี่รสชาติถึงเครื่อง สิบเต็มสิบไม่หัก ใครแวะมาที่นี่ห้ามพลาดเลยนะคะ

ไก่ทอดซอสตะไคร้ ซอสแจ่วมะขามเข้มข้น ไก่หมักซอสตะไคร้สูตรของทางร้าน นำไปทอดจนเหลืองน่าทาน ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มแจ่วของทางร้านไม่เหมือนที่อื่น เขาใส่กระเทียมกับหัวหอมคั่วด้วย ทำให้มีความละมุนกว่าน้ำจิ้มแจ่วทั่วไป ช่วยชูรสไก่ทอดให้อร่อยยิ่งขึ้น

ต้มจิ๋วปลามังสวิรัติ (พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท) เห็นน้ำซุปใสๆ แบบนี้ แต่รสชาติว้าวมาก เครื่องปรุงน้อยแต่อร่อยดด้วยวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นความหวานจากมันเทศและหอมแดง ความเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก และเติมพริกขี้หนูและน้ำปลาเล็กน้อย เป็นเมนูง่ายๆ แต่หาทานยาก ที่สำคัญคือดีต่อสุขภาพ เป็นซุปใสและไขมันต่ำจากปลาช่อน

ตบท้ายด้วยของเมนูของหวาน มี 2 อย่างให้เลือก คือ “จากบางน้ำผึ้ง” ผลไม้ประจำถิ่น เนื้อนุ่มหนึบเหนียว และ “ส้มฉุน” เมนูของหวานโบราณ เป็นเครื่องว่างที่อยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในรัชกาลที่ 2 ผลไม้ที่นิยมนำมาลอยแก้ว คือ ลิ้นจี่ และผลไม้เปรี้ยวอย่าง มะยงชิด ทางร้านยังนำมะม่วงเบา ซึ่งปลูกที่คุ้งบางกะเจ้ามาลอยแก้วด้วย และใส่ลูกพีชโครงการหลวง เพิ่มรสชาติที่หอมละมุนขึ้น ส่วนน้ำส้มฉุนใช้ผลของส้มซ่าคั้นน้ำ แล้วเอาเปลือกไปต้มจนมีกลิ่นออกมา แล้วเวลาเสิร์ฟใส่มะม่วงซอย ขิงซอย หอมเจียว ถั่วลิสง และโรยด้วยผิวส้มซ่า เวลาทานจะได้รสเปรี้ยว หวาน หอม ชื่นใจ

ส่วนคอกาแฟที่นี่ก็มีไว้ให้บริการ อาทิ กาแฟน้ำส้มมะปี๊ด และเมนูต่างๆ อีกมากมาย นี่เป็นอีกหนึ่งอย่างของสีสันสวรรค์นักกิน ไม่ว่าจะมาทานอาหารหรือจิบกาแฟ แวะมาได้ที่ร้านขึ้นวัง

ร้านขึ้นวัง เลขที่ 55/5 ซอยเพชรหึงษ์ 26 หมู่ 4 ตำบล บางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ 10130 จองโต๊ะล่วงหน้า โทร. 082 365 6696

ฟาร์มจระเข้ แลนด์มาร์กดั้งเดิมของสมุทรปราการ

“ป้อมยุทธนาวี พระเจดีย์กลางน้ำ ฟาร์มจระเข้ใหญ่ งามวิไลเมืองโบราณ สงกรานต์พระประแดง ปลาสลิดแห้งรสดี ประเพณีรับบัว ครบถ้วนทั่วอุตสาหกรรม”

พูดถึงสมุทราปราการ หลายคนคงนึกถึงฟาร์มจระเข้ หนึ่งในคำขวัญประจำจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่อายุกว่า 70 ปี บางคนอาจจะเคยมาเที่ยวตั้งแต่เด็กหรือสมัยคุณพ่อคุณแม่ วันนี้เรามาย้อนวัยย้อนเวลากันอีกครั้ง เพราะหลายคนอาจจะหลงลืมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ไปบ้างแล้ว กอปรกับช่วงหนึ่งเขาปิดกิจการไปด้วย ตอนนี้เขากลับมาเปิดให้บริการใหม่ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เราไปย้อนรอยเส้นทางการท่องเที่ยวฟาร์มจระเข้กันค่ะ

ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ สมุทรปราการ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 30 กม. เป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นสถานเพาะเลี้ยงจระเข้นับหมื่นตัว ที่นี่ยังเป็นสวนสัตว์มีสัตว์ต่างๆ อาทิ เสือ ช้าง คาปิบาร่า อัลปาก้า ลูกสิงโตขาว ลิง ชะนี แพะ นกต่างๆ เป็นต้น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จำลองที่เด็กๆ ชื่นชอบอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงโชว์จระเข้ การจับจระเข้ด้วยมือเปล่า ที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวได้ทุกรอบ และโชว์ช้างแสนรู้ ไม่ว่าจะเป็น เตะฟุตบอล โยนโบว์ลิ่ง ตีกลอง วาดรูป ฯลฯ โชว์รอบแรก 10.30 น. รอบสุดท้าย 16.30 น. ของทุกวัน

ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ สมุทรปราการ เปิดให้เช้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. บัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท เด็กเล็กเข้าฟรี!

กินลม ชมวิว ดูนก ชมพระอาทิตย์ตก ที่สถานตากอากาศบางปู

สถานตากอากาศบางปู เป็นเดสติเนชั่นหนึ่งของสมุทรปราการ ที่หนุ่มสาวหลายคู่ต้องเคยจูงมือกันมาเดินดูนกนางนวล ชมพระอาทิตย์ตกที่สะพานสุขตาสักครั้งหนึ่ง เป็นภาพโรแมนติกที่หลายคนประทับใจ

บางปู เป็นสถานตากอากาศยอดนิยมตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาว เมื่อเกือบ 80 ปีที่แล้ว ปัจจุบันบางปูยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ไม่มีเวลามากนัก ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ริมทะเลอ่าวไทย

ในช่วงเดือน พย. – เมย. จะมีนกนางนวลนับหมื่นตัวหลายสายพันธุ์ อพยพหนีหนาวมาที่ชายทะเลบางปู อาทิ นกนางนวลหางดำ นกนางนวลหลังดำพันธุ์รัสเซีย นกนางนวลพันธุ์มองโกเลีย นกนางนวลขอบปีกขาว นกนางนวลปากเรียว ในช่วงนี้จะเนืองแน่นด้วยนักท่องเที่ยว ที่มาให้อาหารนกนางนวล และถ่ายรูปนกนางนวล และชมพระอาทิตย์ตกที่สะพานสุขตา

สถานตากอากาศบางปูยังมีร้านอาหารเก่าแก่ที่ “ศาลาสุขใจ และเป็นสถานลีลาศเพื่อสุขภาพสำหรับคนทั่วไป รวมถึงมีที่พักตากอากาศที่ให้ฟิลเหมือนย้อนยุค นอกจากนี้บางปูยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์ มีเส้นทางเดินป่าชายเลนที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย ถ้ามีเวลาแค่หนึ่งวันแนะนำมาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ “กินปู ดูนก เต้นรำ ย่ำป่าชายเลน” ครบจบที่บางปูกันนะคะ

สถานตากอากาศบางปู 164 ถ. สุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280 โทร. 02 323 9911

และนี่คือตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวแบบ One Day Trip จังหวัดสมุทรปราการ “สุขทันทีที่เที่ยวสมุทรปราการ” ปีใหม่นี้ใครยังไม่มีแพลนเที่ยวที่ไหน เชิญชวนเที่ยว 9 จังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) มีครบทุกรสชาติ ขับรถเที่ยวได้พร้อมทำกิจกรรมสนุกสนานรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มทุกวัย สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเพิ่มเติม ได้ทาง Facebook : เที่ยวตะวันออก

# สีสันสวรรค์ใกล้กรุง # สีสันสวรรค์ทะเลตะวันออก # สีสันสวรรค์นักกิน # สีสันสวรรค์นักช็อป  #สีสันสวรรค์นักกอล์ฟ #สีสันตะวันออก #กินเที่ยวสมุทรปราการ