ทริป “ชิม ช้อป เที่ยว” ตามรอย “สวนทุเรียน GI” อัพเดทร้านอาหาร-คาเฟ่ ปากช่อง-เขาใหญ่

ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลาย สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็คราคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่าง “เขาใหญ่” ที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเศษๆ นอกจากจะเดินทางสะดวกแล้ว เขาใหญ่ยังเป็นเหมือน “ปอด” ของคนเมือง ที่พร้อมจะโอบกอดและเติมพลังให้คุณยามเหนื่อยล้า แถมยังมีที่พักเก๋ๆ ให้เลือกหลายระดับ ร้านอาหารทุกประเภท คาเฟ่ทุกสไตล์ และยังเป็นเมือง Wellness สำหรับคนที่ต้องการไปฟื้นฟูสุขภาพกายใจอีกด้วย

นอกจากธรรมชาติที่งดงาม และอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะมาเยี่ยมชมเขาใหญ่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสวนเกษตรหรือสวนผลไม้ โดยเฉพาะสวนทุเรียนปากช่อง ซึ่งปัจจุบันมีชื่อเสียงไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ ล่าสุดสวนทุเรียนปากช่อง 39 แห่ง เพิ่งได้รับมาตรฐาน GI ไปเมื่อเดือนเมษายน 2565 ต่อไปเราคงจะต้องปักหมุดเพิ่มลงไปว่าช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคมของทุกปี เป็นเทศกาลผลไม้ของเขาใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด โดยเฉพาะ “ทุเรียนหมอนทอง” ราชาแห่งผลไม้ที่ทุกคนชื่นชอบ 

การมาเยือนเขาใหญ่ครั้งนี้ จึงเป็น ‘Durian Trip’ ครั้งแรกของเทศกาล “ทุเรียน GI ปากช่อง-เขาใหญ่” ซึ่งเราจะพาคุณไปตลุยสวนทุเรียนที่ได้มาตรฐาน GI พร้อมชิมทุเรียนหมอนทอง GI ที่มีเอกลักษณ์ คือ “เนื้อแห้ง เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง” และลองทานอาหารคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของทุเรียน แวะเช็คอินร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ในเขาใหญ่ ตามไปฟินกันเลยค่ะ

สวนเจ้าเงาะ ทุเรียนในสวนป่าธรรมชาติ เสน่ห์แบบบ้านๆ ไม่พึ่งสารเคมี

ถึงแล้วจ้า…“สวนเจ้าเงาะ” ที่ไม่มีรจนา มีแต่เจ้าเงาะ หรือ “ลุงตี๋” เชิดชัย โล้กูลประกิจ เจ้าของสวนยืนยิ้มแฉ่งต้อนรับคณะเรา สงสัยเหมือนเราไหมว่าทำไมสวนทุเรียนถึงชื่อเจ้าเงาะ ทั้งที่ไม่มีเงาะสักต้น ลุงตี๋เฉลยว่าที่ผ่านมาแกสวมบทบาทหลายอย่าง เวลาไปทำหน้าที่อะไร ก็จะต้องสวมบทบาทนั้น กลับมาก็เหมือนถอดรูปเงาะ เลยตั้งชื่อสวนว่า “เจ้าเงาะ” ซะเลย

ลุงตี๋ยังออกตัวว่าสวนเจ้าเงาะของแกเป็นสวนทุเรียนแบบบ้านๆ ไม่หรูหราอะไร แต่แกใส่ใจในคุณภาพของทุเรียนทุกต้น มีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อให้ได้ทุเรียนที่ดีที่สุด รวมถึงมีระบบการจัดการพืชปลอดภัย (GAP) ไม่ใช้สารเคมี ทานทุเรียนที่นี่รับรองปลอดภัย สบายใจ หายห่วงค่ะ

สวนเจ้าเงาะเป็นสวนป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ 17 ไร่ ลุงตี๋ปลูกพืชไว้หลายชนิด ทั้งไม้ป่า ผักหวานป่า ทุเรียน มะยงชิด ส่วนบริเวณที่เนินเขาก็ปล่อยให้พืชขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยแกจะปลูกทุเรียนหมอนทองเป็นหลัก แซมด้วยทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองนนทบุรี เช่น ชะนี ก้านยาว เม็ดในยายปราง กบชายน้ำ กบสุวรรณ กำปั่นพวง แปลงทุเรียนของแกจะแทรกอยู่ในสวนป่าธรรมชาติ บรรยากาศภายในสวนจึงมีความสงบร่มรื่นแบบป่าธรรมชาติ

สวนของลุงตี๋เป็นสวนอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยหมักจากใบไม้ น้ำหมักจากนมโค และชีวภัณฑ์ เชื้อราไตรโคเดอร์มา ในการป้องกันโรคพืช นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงชันโรง เพื่อผสมเกสรตามธรรมชาติ ในสวนเล็กๆ ของลุงตี๋ยังใช้พลังงานแสงเพื่อสูบน้ำบาดาล และระบบการให้น้ำแบบประหยัด โดยใช้เทคโนโลยีที่สมัยใหม่

สวนเจ้าเงาะ เป็น 1 ใน 39 สวนทุเรียนปากช่องที่ได้รับมาตรฐาน GI (Geographical Indication) ผลผลิตของที่นี่จะออกในช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม ดังนั้นต้องรีบมาจับจองกันตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ วันนี้โชคดีที่ลุงตี๋เตรียมทุเรียนส่วนหนึ่งเอาไว้ให้คณะเราได้ชิมกัน ใครที่บ่นว่าอยากทานทุเรียน วันนี้ได้ทานทุเรียนพูใหญ่สะใจกันไปเลยค่ะ 

นอกจากจะได้ทานทุเรียน “เนื้อแห้ง เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมอนทอง GI แล้ว ลุงตี๋ยังใจดีพาชมสวนทุเรียนที่กำลังออกลูกเต็มต้น ทุเรียนลูกใหญ่มาก น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4-5 กิโลกรัม/ลูก จนต้องใช้เชือกฟางผูกโยงไว้เพื่อช่วยรับน้ำหนัก เด็กเทพฯ อย่างเราตื่นเต้นกับสวนทุเรียนมาก สนุกกับการถ่ายรูปต้นทุเรียน ที่แม้จะเต็มไปด้วยขวากหนาม (ทุเรียน) ก็ไม่หวั่น เพื่อให้ได้รูปสวยๆ ไปอวดในโซเชียล เป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสุขมากๆ ได้กินทุเรียนเนื้อเนียนแน่นเต็มปากเต็มคำ และยังได้รับความรู้เรื่องทุเรียนจากเจ้าของสวน แถมสั่งทุเรียนจากสวนกลับบ้านกันอีกคนละหลายลูก แค่สวนแรกก็ฟินแล้ว…

สวนเจ้าเงาะ เลขที่ 445 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองม่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร. 081 266 0359  ติดตามข่าวสารได้ที่เฟซบุ้ค:  ทุเรียน สวนเจ้าเงาะ Klongmuang Pakchong

รื่นรมย์ในสวนเอเดน…เรียนรู้วิถีออร์แกนิคตามแบบธรรมชาติ  

พี่ชอง ณรงค์ฤทธิ์ สุขไชยปราการ เจ้าของสวนเอเดน

“สวนเอเดน” เป็นสวนทุเรียนออร์แกนิกส์ที่มีชื่อเสียงของปากช่อง แขกไปใครมาก็จะต้องแวะชมสวนที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของสวนทุเรียนออร์แกนิกส์แห่งนี้ และแวะซื้อผลผลิตของสวนเอเดนที่มั่นใจในคุณภาพ ปลอดภัย ไร้สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนหมอนทอง อะโวคาโด้หลากหลายสายพันธุ์ น้อยหนา ฯลฯ วันนี้เราจะพาคุนไปลุยสวนเอเดนกันค่ะ

สวนเอเดนตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ ทางเข้าสวนเป็นเพิงไม้หลังเล็กๆ วางจำหน่ายผลผลิตจากสวน มีทั้งผักต่างๆ ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน อะโวคาโด้ น้อยหน่า และผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น มะขามหวาน กล้วยหนึบหนับ หรือกล้วยตาก ฯลฯ ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอุดหนุนสินค้าจากสวนเอเดนตลอดทั้งวัน และถ้าใครอยากเข้าไปชมสวน พี่ชองก็อนุญาตให้เดินเข้าได้โดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า นักท่องเที่ยวที่แวะซื้อสินค้าแล้ว ก็มักจะพากันเดินเข้าไปชมสวน ถ่ายรูปต้นทุเรียนและอะโวคาโด้อย่างมีความสุข

คณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมสวนเอเดน
ถึงแล้วสวนเอเดน!
ทุเรียนหมอนทองลูกโตๆ จากสวนเอเดน ทุเรียนออร์แกนิคส์ ปลอดภัย ไร้สารเคมี
อะโวคาโด้สดจากสวน
อะโวคาโด้สายพันธุ์ต่างๆ ในสวนเอเดน

สวนเอเดนเป็น 1 ใน 39 สวนทุเรียนของปากช่องที่ได้รับมาตรฐาน GI จุดเด่นของสวนเอเดนคือเป็นสวนออร์แกนิค 100% ที่กล้าพูดเลยว่าไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ ปกติการทำสวนทุเรียนจะต้องใช้สารเคมีป้องกันโรคและแมลง เพื่อให้ได้ผลผลิตผลจำนวนมาก ลูกใหญ่ ทรงสวย การทำสวนทุเรียนออร์นิคจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แต่พี่ชองก็พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง เอเดนจึงเป็นสวนต้นแบบสำหรับเกษตรกรที่สนใจทำสวนออร์แกนิค เพราะปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น วันนี้เราจะไปเยี่ยมชมสวนเอเดน พร้อมพูดคุยกับพี่ชอง – ณรงค์ฤทธิ์ สุขไชยปราการ เกษตรกรเจ้าของสวน ถึงแนวทางการทำสวนออร์แกนิคกันค่ะ

ทางเข้าสวนร่มรื่น
อุ๊ย! หน้ากากทุเรียนก็มา

สวนเอเดนมีพื้นที่ 60 ไร่ พี่ชองซื้อต่อจากเจ้าของเดิม หลังตัดสินใจมาเป็นชาวสวนที่ปากช่อง เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว และเริ่มปลูกพืชที่ให้ผลผลิตเร็ว เช่น แก้วมังกร ขนุน น้อยหนา เพื่อเป็นรายได้ พร้อมๆ ไปกับการวางแผนปลูกอะโวคาโด้และทุเรียน เพื่อรอเก็บผลผลิตในอีก 5-6 ปีข้างหน้า โดยตั้งใจว่าจะทำสวนออร์แกนิคแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

พี่ชองกับทุเรียนในสวนที่ปลูกแบบออร์แกนิคส์
ทุเรียนลูกดกมากๆ
ต้นอะโวคาโด้ลูกดกไม่แพ้กัน
ตั้งใจฟังพี่ชองเล่าเรื่องสวนเอเดน

ระหว่างพูดคุยพี่ชองก็พาคณะเราลัดเลาะไปตามสวนทุเรียน สองข้างทางมีทั้งต้นอะโวคาโด้ที่ออกลูกเต็มต้น และต้นทุเรียนที่ลูกดกไม่แพ้กัน ในสวนของพี่ชองยังมีต้นไม้อื่นๆ เช่น ต้นสะเดา ต้นกล้วย และไม้บางต้นที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ พี่ชองชี้ให้ดูต้นไม้ริมสวนว่าเป็นกำแพงธรรมชาติอย่างดี ช่วยกันลมและกันแมลงศัตรูพืช จะสังเกตว่าสวนเอเดนค่อนข้างโปร่ง เพื่อให้แสงแดดสามารถส่องถึงโคนต้น เป็นการฆ่าเชื้อโรค และให้พืชสังเคราะห์แสงได้เต็มที่ พี่ชองชี้ให้ดูว่าโคนต้นทุเรียนจะปล่อยให้หญ้าขึ้นสูงพอประมาณ เพื่อคลุมดินรักษาความชื้นด้วย

ดอกไม้ก็มีนะคะ
ต้นวานิลลาที่ปลูกแซมไว้ในสวนกับต้นอะโวคาโด้

บริเวณทางเดินยังปลูกดอกไม้ปลูกเอาไว้ เพื่อล่อผึ้งและแมลงให้มาช่วยผสมเกสร แต่ผลพลอยได้คือความสวยงาม ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ถ่ายภาพกัน และยังวางโอ่งน้ำและภาชนะใส่น้ำเอาไว้ให้กบเขียดมาอาศัยแพร่พันธุ์ เพื่อช่วยกำจัดแมลง ซึ่งทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาตินั่นเอง อย่างต้นหม่อนที่ปลูกเอาไว้ นอกจากจะได้ใบและลูกหม่อนแล้ว ยังเป็นเหยื่อล่อแมงอีนูนที่จะมากินใบอ่อนทุเรียนในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นแนวทางทำสวนออร์แกนิคโดยการอิงธรรมชาติของสวนเอเดน ให้พืชและสัตว์อาศัยพึ่งพากันและกันตามธรรมชาติ

หันไปทางไหนก็มีแต่ทุเรียน

ทุเรียนที่นี่มี 4 สายพันธุ์ คือ หมอนทอง ชะนี ก้านยาว พวงมณี ซึ่งระหว่างการปลูกต้องหมั่นบำรุงต้นโดยโรยปุ๋ยขี้วัวที่โคนต้นเดือนละ 2 ครั้ง และใส่ปุ๋ยขี้แพะหมักและขี้ค้างคาวปีละ 4 ครั้ง ระหว่างนี้ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอ ให้กิ่งแข็งแรง พร้อมออกดอกออกผล และควรตัดกิ่งให้ออกเป็นแฉก ไม่ซ้อนกัน เพื่อไม่ให้ลูกทับกันจนเสียทรง ทำแบบนี้ไปจนถึงปีที่ 5 ซึ่งเป็นระยะออกดอก ในระยะ 6 เดือนตั้งแต่ออกดอกจนถึงเป็นลูก ให้เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยขี้ค้างคาวเร่งดอกเดือนละครั้ง ส่วนปุ๋ยขี้วัวและขี้แพะหมัก ยังคงให้ตามปกติจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต หลังเก็บเกี่ยวให้ตัดแต่งกิ่งใบ เหลือแต่ใบที่ปลายกิ่ง เพื่อให้ต้นเตรียมสะสมอาหาร เพื่อรอให้ลูกในครอปต่อไป ระยะนี้เปลี่ยนมาให้ปุ๋ยเหมือนตอนที่เริ่มปลูก

ความภูมิใจของเกษตรกรที่พลิกฟื้นผืนดินเป็นสวนผลไม้ออร์แกนิคแบบ 100%

ต้นทุเรียนที่แก่สุดในสวนเอเดน อายุ 15-16 ปี ยิ่งต้นแก่ก็จะกระจายเนื้อให้ลูกได้มาก เนื้อจึงแน่น ปกติทุเรียนหนึ่งต้นพี่ชองจะเก็บลูกไว้ประมาณ 30 ลูก แต่ก็ต้องดูโครงสร้างของต้นด้วยว่าแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักได้หรือไม่ “ถ้าต้นไหนแข็งแรงก็ไว้ลูกได้ ถ้าต้นใหม่ๆ ยังไม่แข็งแรงมากก็ไว้ลูกหนึ่งหรือไม้ไว้เลย ไม่งั้นเขาจะดูดสารอาหารไปหมด”

มีความสุขกับการชมสวนทุเรียนเอเดน

ฟังพี่ชองเล่าแล้วรู้เลยว่าการปลูกทุเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการทำสวนทุเรียนออร์แกนิค กว่าจะได้ทุเรียนสักลูกหนึ่ง ต้องใช้เวลาบ่มเพาะและดูแลประคบประหงมอย่างใกล้ชิด จึงจะได้ทุเรียนรสชาติหวาน กรอบ อร่อย แถมบางปีโชคร้ายเจอโรคแมลงลงหนักๆ หรือฝนตกหนัก ทุเรียนแฉะ ก็ต้องปล่อยทิ้งไป อย่างปีนี้พี่ชองบอกว่าได้ผลผลิตน้อย ปกติจะได้ปีละ 15 ตัน ปีนี้หายไปกว่าครึ่ง เกษตรกรที่คิดจะปลูกทุเรียนออร์แกนิค ก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่า บางทีอาจจะได้ผลผลิตน้อย เพราะไม่สามารถควบคุมธรรมชาติได้ แม้จะพยายามป้องกันอย่างดีแล้วก็ตาม ทำให้ทุเรียนออร์แกนิคราคาสูงกว่าท้องตลาด อย่างหมอนทองราคาหน้าสวน กก.ละ 250 บาท ก้านยาว 350 บาท แถมรูปทรงยังไม่สวยงามเหมือนทุเรียนที่ใช้สารเคมี แต่ข้อดีคือผู้บริโภครับประทานได้แบบสบายใจ

ทุเรียนหมอนทอง GI คืออะไร

พูดถึงสวนทุเรียน GI หลายคนยังไม่เข้าใจว่า ทุเรียน GI คืออะไร ขอพื้นที่อธิบายนิดหนึ่งว่า GI (Geographical Indication) หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเครื่องหมายที่มอบให้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตเฉพาะเจาะจงคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่ต้องมีการจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เพื่อรับรองมาตรฐาน

“ทุเรียน” เป็นสินค้า GI ประเภทหนึ่ง ที่มีการขึ้นทะเบียนกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้วทั้งหมด 11 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีจุดเด่นทั้งลักษณะผลและรสชาติต่างกันไป เช่น ทุเรียนจันทน์ ทุเรียนนนท์ ทุเรียนป่าละอู ฯลฯ 

ทุเรียน GI ปากช่องเขาใหญ่ คือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น คือ เนื้อเนียน แห้งละเอียด เส้นใยน้อย รสหวาน มัน กลิ่นไม่แรง ซึ่งเกิดจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของเขาใหญ่ ดิน น้ำ อากาศ ที่หล่อหลอมทุเรียนหมอนทองปากช่องเขาใหญ่มีรสชาติโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีสวนทุเรียนปากช่องที่ได้รับมาตรฐาน GI แล้ว 39 แห่ง และอยู่ระหว่างยื่นขอขึ้นทะเบียนอีกหลายราย

ปัจจุบันเขาใหญ่มีสินค้าที่ได้รับ GI ทั้งหมด 2 ชนิด คือ ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ เขาใหญ่ และทุเรียนปากช่อง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของชาวปากช่องเขาใหญ่ สวนเอเดนของพี่ชองก็เป็น 1 ใน 39 แห่ง ที่ได้รับรองมาตรฐาน GI เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา “สวนทุเรียนที่ปากช่องมีประมาณ 150-200 สวน แต่ที่ผ่านมาตรฐาน GI มี 39 สวน  ตอนนี้เราพยายามรวมกลุ่มกัน เพื่อทำให้มันมีคุณภาพมากขึ้น เพราะพอเรามีเอกลักษณ์ของทุเรียนที่นี่ สินค้าจากที่อื่นก็เข้ามาสวมไม่ได้”

ในอนาคตถ้าสวนทุเรียนปากช่องได้รับมาตรฐาน GI เพิ่มขึ้น ก็จะมีผลผลิตมากขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับจังหวัด และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น อย่างปีนี้มีการจัดงานเทศกาลทุเรียนหมอนทอง GI ปากช่อง-เขาใหญ่ ขึ้นเป็นครั้งแรก และจะมีการจัดงานเทศกาลทุเรียนปากช่องทุกปี เพื่อประกาศให้รู้ว่าทุเรียนหมอนทองปากช่อง รสชาติอร่อยไม่แพ้ทุเรียนจังหวัดอื่นๆ

วันนี้ได้รับความรู้เรื่องของทุเรียนแบบเจาะลึกจากปรมาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ สุขไชยปราการ ซึ่งถ่ายทอดวิชาแบบไม่มีกั๊ก เกษตรกรท่านใดอยากได้ความรู้เรื่องการทำสวนทุเรียนแบบออร์แกนิก ติดต่อกับพี่ชองได้ที่สวนเอเดนนะคะ   

พี่ชองเตรียมทุเรียนหมอนทองไว้ให้คณะสื่อ

ก่อนจากลากันในวันนี้ พี่ชองเตรียมอาหารกลางวันมื้อพิเศษ ที่ใช้ทุเรียนเป็นวัตถุดิบนั่นก็คือ “แกงเหลืองทุเรียนอ่อน” ฝีมือเชฟเฟิสท์ วัชรีภรณ์ อรุณพันธุ์ จาก ครัวบินหลา ทีม Young Khao Yai แค่ยกมาตั้งบนโต๊ะก็เรียกน้ำย่อยจากทุกคนแล้ว กลิ่นเครื่องแกงหอมมากๆ สีสันจัดจ้าน แต่รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดโดด เนื้อทุเรียนอ่อนเข้ากับเครื่องแกงได้ดี ตบท้ายด้วยผลไม้ที่ทุกคนรอคอย “ทุเรียนหมอนทอง” พูใหญ่ เนื้อแน่น เต็มปากเต็มคำ รสชาติหวานมัน ไม่มีเส้นใยเลย ทานคู่กับน้ำอะโวคาโด้ปั่นสดๆ ชื่นใจ

หลังจากอิ่มแล้วก็ได้เวลาช้อป วิญญาณแม่บ้านเข้าสิง สาวๆ ขนซื้อทุเรียน อะโวคาโด้ มะขามหวาน กล้วยหนึบหนับ ฯลฯ ติดไม้ติดมือไปฝากคนทางบ้านเต็มรถ

ใครอยากได้รับประสบการณ์ดีๆ แบบนี้ แวะมาคุยกับพี่ชองได้ที่สวนเอเดน ออร์แกนิคส์ ปากช่อง ถ.มิตรภาพ โทร. 062-987-9445 เฟซบุ๊ค สวนเอเดน ออร์แกนิคส์ ปากช่อง

สวนผักปากช่อง สวนผักออร์แกนิค ซูเปอร์มาร์เกตใหญ่ของปากช่อง

เชื่อไหมว่าผักสดและสมุนไพรในร้านอาหารที่เรากินมาตลอดทริป ส่วนหนึ่งต้องมาจาก “สวนผักปากช่อง” แน่นอน เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตผักปลอดสารที่ใหญ่ที่สุดในปากช่อง…

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงของเขาใหญ่ สวนผักปากช่อง จึงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ทั้งแวะมาชมสวน ซื้อผลิตผลในสวน และมาเรียนรู้วิถีเกษตรทฤษฏีใหม่ วันนี้เราก็เลยขอแวะไปชมสวนผักออร์แกนิคของ พี่หนุ่มเสก “ชยพล กลมกล่อม” เกษตรกรหนุ่มใจดี ที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรทฤษฏีใหม่ ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปชมสวนเกษตรอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของปากช่อง พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ไปทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ และซื้อผลิตภัณฑ์ผักสดปลอดสารกลับบ้านด้วย

พี่หนุ่มเสก ชยพล กลมกล่อม

สวนผักปากช่องของพี่หนุ่มเสก บรรยากาศดีมากๆ โซนแรกเป็นส่วนสำหรับทำกิจกรรม ซึ่งรองรับคณะท่องเที่ยวได้สูงสุดถึง 300 คน เริ่มกันด้วยเวลคัมดริ๊งกันด้วยอัญชันกัญชาผสมน้ำผึ้ง ชื่นใจจนต้องขอเติมอีกแก้ว โซนนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากสวนผักของที่นี่ และผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้เราซื้อกลับบ้านในราคาไม่แพง ชมสวนแล้วอย่าลืมอุดหนุนชุมชนด้วยนะคะ

น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 มาปรับใช้ในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่
ให้อาหารแม่ไก่ไข่อารมณ์กี กับพี่อู๊ด-อี๊ดผลิตปุ๋ย และน้องกระต่าย

พอเข้าไปด้านในก็จะพบกับฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดี เป็นแม่ไก่พันธุ์เรดฮอร์น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถทดลองให้อาหารไก่ได้ และยังมีฟาร์มกระต่าย ฟาร์มหมู “อู๊ดอี๊ดผลิตปุ๋ย” ที่ชอบกินผักวอเตอร์เครสมากๆ โซนนี้เป็นการเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงสัตว์แบบง่ายๆ พี่หนุ่มเสกจะวาดผังและเขียนรายละเอียดไว้บนกระดานให้เห็นวิธีเลี้ยงไก่ ต้นทุน รายได้ ฯลฯ สำหรับคนที่สนใจเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมได้เลย

เมล็ดกัญชาสายพันธุ์หางกระรอก
กิจกรรมปลูกต้นกัญชา
ยิ้มหน้าบานได้ต้นกัญชากลับบ้าน
พี่หนุ่มเสกแนะนำวิธีเลี้ยงดูน้องกัญชา

กิจกรรมต่อไปคือปลูกต้นกัญชา ซึ่งพี่หนุ่มเสกเตรียมเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เป็นกัญชาพันธุ์หางกระรอก หลังจากเราหยอดเมล็ดกัญชาลงบนถาดปลูก รดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นปิดฝาไว้ไม่ให้อากาศเข้า 2 วัน เมล็ดกัญชาก็จะเริ่มงอก แต่รอ 2 วันคงไม่ไหว พี่หนุ่มเสกเลยจัดต้นอ่อนที่งอกแล้วให้กลับไปเลี้ยงต่อที่บ้านคนละ 2 ต้น เล่นเอาทุกคนยิ้มหน้าบานเหมือนกินกัญชาเลย ใครสนใจปลูกกัญชา ติดตามขั้นตอนการเพาะเมล็ดกัญชาอย่างละเอียดได้ทางเฟซบุ้ค “สวนผักปาช่อง” ค่ะ

สารพัดผักสลัด อยากกินทั้งสวนเลย

สวนผักของพี่หนุ่มเสก ปลูกผักไว้หลายชนิด อาทิ กุยช่าย คื่นช่าย ผักกาด กวางตุ้ง ไต้หวัน หน่อไม้ฝรั่ง ผักชี และผักสลัดต่างๆ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ฟินเล่ บัตเตอร์เฮด เบบี้คอส เคล เป็นแหล่งผลิตผักสดปลอดสารที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของปากช่อง เป็นผักที่มีคุณภาพและได้การรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมส่งเสริมการเกษตร สำหรับคนที่ชอบทานผักสลัดแบบเรา แค่ได้อยู่ท่ามกลางสวนผักที่กำลังบานสะพรั่งแบบนี้ ก็มีความสุขแล้วค่ะ ที่นี่ยังมีต้นมัลเบอร์รี่ ต้นฟลิกซ์ ที่เราสามารถเด็ดมาทานได้อย่างสบายใจ เพราะปลอดสารเคมี เรียกว่าเดินชมสวนเพลินๆ ได้ทั้งวัน

เจ้าของสวนใจดีมาก บรรยายถึงการปลูกผักออร์แกนิคอย่างละเอียด
แปลงผักในโรงเรือนที่รอการเติบโต
พืชผักสวนครัวก็มีจ้า
ขวามือ ต้นมัลเบอร์รี่ เด็ดลูกสดๆ กินได้เลย

สวนผักของพี่หนุ่มเสกนอกจากจะเป็นสวนอินทรีย์แล้วยังเป็นสมาร์มฟาร์มด้วย เท่มาก เพราะพี่หนุ่มเสก เป็นอุปนายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ที่ดูแลการท่องเที่ยวด้านเกษตร และเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรปากช่อง (เกษตรกรดีเด่น) เพราะแบบนี้ถึงห้ามพลาดที่จะแวะมาขอความรู้จากพี่หนุ่มเสกเกษตกรตัวจริง

น้ำอัญชันกัญชาน้ำผึ้ง
ต้นฟลิกซ์ เด็ดลูกทานสดได้เลยค่ะ

สวนผักปากช่อง เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรของปากช่อง ที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์การเรียนรู้การเกษตรอินทรีย์ สำหรับท่านที่สนใจอยากเข้าไปเยี่ยมชมหรือศึกษาหาความรู้ที่สวนผักปากช่อง ติอต่อพี่หนุ่มเสก ชยพล กลมกล่อม โทร. 091 915 5542

สวนผักปากช่อง: 388 หมู่ที่ 19 ตำบลคลองม่วง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อำเภอปากช่อง 30130 โทร. 085 999 6642

เขาใหญ่สวรรค์ของนักชิม แหล่งรวมร้านอาหารอร่อยและคาเฟ่สุดชิค

นอกจากเราจะไปบุกสวนทุเรียน ชิมทุเรียนกันถึงสวนแล้ว ทริปนี้เรายังแวะเช็คอินร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ในเขาใหญ่ แต่ละร้านจะเป็นอย่างไร ตามไปฟินกันเลยค่ะ   

Durian House บ้านทุเรียน เขาใหญ่ สวรรค์ของคนรักทุเรียน

บ้านทุเรียน เขาใหญ่ เป็นคาเฟ่สไตล์มินิมอลผสมคาเฟ่ปารีส ซึ่งคุณโรสและคุณต้นเนรมิตบ้านทุเรียนแห่งนี้ให้กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ สำหรับคนรักทุเรียน บรรยากาศภายในร้านอบอวลด้วยกลิ่นอายของความเป็นทุเรียน โดยคุณต้นนำเอาส่วนต่างๆ ของต้นทุเรียนมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นรูปวาดบนฝาผนัง โคมไฟรูปทุเรียน

Durian House เป็น 1 ใน 39 สวนทุเรียนที่ได้รับมาตรฐาน GI เนื้อทุเรียนหมอนทองที่นี่คัดเกรดเอ เนื้อแห้ง เนียน นุ่ม ไม่มีเส้นใย กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติหวานมัน นอกจากขายสดแล้ว คุณโรสยังนำมารังสรรค์เป็นเมนูทุเรียนหวาน-คาว เช่น “ข้าวผัดทุเรียน” ที่ใส่เนื้อทุเรียนมาเป็นชิ้นๆ ขนมหวาน มี 2 เมนู คือ “เค้กซอสทุเรียน” ตัวเค้กเป็นเนื้อชิฟฟ่อนเนื้อเบามาก และ“ทาร์ตชีสทุเรียน” ท็อปปิ้งด้วยเนื้อทุเรียนแบบจุกๆ

คุณโรส-คุณต้น เจ้าของคาเฟ่ทุเรียนสุดชิค
รวมเมนูเด่นของบ้านทุเรียน

เมนูเครื่องดื่มที่ขายดี คือ “ลาเต้ทุเรียน” ท็อปด้วยเนื้อทุเรียน “อัพโฟกาโต้ทุเรียน” ไอศกรีมทุเรียน มาใส่ชอตเอสเพรสโซ่ รสชาติละมุน บ้านทุเรียนไม่ได้มีแต่เมนูทุเรียนนะคะ ยังมีเมนูอาหาร ขนม เครื่องดื่มทั่วไปด้วย สำหรับคนที่ไม่ทานทุเรียนสั่งได้ค่ะ สำหรับทุเรียนเลิฟเวอร์ ไม่ว่าจะในหรือนอกฤดูกาล แวะมาทานได้ตลอดทั้งปีที่ บ้านทุเรียน คาเฟ่ เขาใหญ่  

บ้านทุเรียน เขาใหญ่ คาเฟ่ เปิดทุกวัน เวลา 9.00-19.00 น. โทร. 065 993 6888

เฟซบุ้ค : http://www.facebook.com/Durian-House บ้านทุเรียน เขาใหญ่

เมนู : https://cdn.me-qr.com/pdf/6976176.pdf

พิกัด: google map https://goo.gl/maps/rwv1ZKK9wMGuyEBX9

EL Café Khaoyai (เอล คาเฟ่ เขาใหญ่) คาเฟ่เล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติยิ่งใหญ่

EL Café คาเฟ่เล็กๆ สไตลมินิมอล ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของเขาใหญ่ (คำว่า EL แปลว่าเล็กจิ๋ว) ตัวร้านเป็นอาคารชั้นเดียว ตกแต่งโทนสีขาว – น้ำตาล ผนังด้านหนึ่งเจาะเป็นช่องหน้าต่างกว้าง เผยให้วิวเขาใหญ่แบบพาโนรามา ด้านนอกเป็นสนามกว้าง มีหลายโซนให้เลือกนั่งจิบกาแฟชมวิวเขาใหญ่แบบใกล้ชิด

เมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกทั้งคอฟฟี่และนอน-คอฟฟี่ ที่ใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากต่างประเทศ อาทิ Rose Berry Sparkling, Iced Rose Coffee Latte, Toffee Nut Coffee Latte, Butterfly Yuzu Sparkling ขนมก็มีทั้งครัวซองต์ โทสต์ และเมนูซิกเนเจอร์คือ ‘ครัฟเฟิล (Cruffle)’ ที่ใช้แป้งครัวซองต์อย่างดีมาอบในเครื่องทำวัฟเฟิลให้กรอบนอกนุ่มใน จะเลือกทานเป็น Cruffle เฉยๆ หรือเป็น Set ก็ได้ แนะนำเป็น Cruffle Fruity ท็อปปิ้งด้วยผลไม้ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม ใครมาเขาใหญ่อย่าลืมแวะมาจิบกาแฟชมวิวที่เอล คาเฟ่ เขาใหญ่ ไม่งั้นอาจจะตกเทรนด์ได้

เอล คาเฟ่ เขาใหญ่ เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-17.30 โทร 081-925-2519

พิกัด EL Cafe Khaoyai หรือคลิก https://goo.gl/maps/u2V2ugjt4gP5Xcdx6

ขอบคุณ ภาพบางส่วนจากเฟซบุ้ค EL Cafe Khaoyai

ภูมิใจที่ “เป็นลาว” โคราช

ร้านอาหาร “เป็นลาว” ก่อตั้งโดย “นายกเต้” พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ความตั้งใจแรกคืออยากจะทำร้านอาหารที่มีส่วนร่วมกับชุมชน พนักงานกว่า 50 ชีวิตเป็นคนพื้นที่ทั้งหมด เป็นผู้สูงอายุ 15 % โดยให้การสนับสนุนชุมชนในเรื่องของวัตถุดิบคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ไก่ ผักสดปลอดสาร ฯลฯ รวมถึงเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้นำผลิตภัณฑ์ต่างงๆ มาวางจำหน่ายได้ เช่น ผัก ผลไม้ เสื้อผ้า งานหัตกรรม ฯลฯ อีกความตั้งใจคือต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมการกินให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้จักอาหารไทยอีสาน

คุณเต้ พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ผู้ก่อตั้งร้านอาหารเป็นลาว

จากความตั้งใจเล็กๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อน กลายเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้ “เป็นลาว” กลายเป็นร้านอาหารยอดนิยมของเขาใหญ่ไปแล้ว ใครมาโคราชจะต้องแวะทานอาหารที่ร้านเป็นลาวอย่างน้อยหนึ่งมื้อ และความสำเร็จนี้กำลังจะถูกต่อยอดไปที่ “หัวหิน” ปลายปีนี้นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ “เป็นลาว หัวหิน” ในบรรยากาศทะเล๊ทะเล ที่เพิ่มวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา แต่ยังคงความแซ่บซี๊ดของอาหารไทยอีสาน ส่วนใครที่ไปเที่ยวสิงคโปร์ ก็อย่าลืมแวะทานอาหารไทยอีสานร้าน “อันหยังก็ได้” (Un-Yang-Kor-Dai) ที่เปิดมา 4 ปีแล้ว และเพิ่งจะได้รับ Bib Gourmand จาก Michelin Guide Singapore ประจำปี 2022 แสดงความยินดีกับนายกเต้ด้วยค่ะ

บรรยากาศร้านค่อนข้างเรียบง่าย เน้นความโล่ง โปร่งสบาย แบบไม่ต้องอาศัยแอร์ การตกแต่งร้านมีกลิ่นอายของอีสานพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาวม้า โคมไฟสุ่มไม้ไผ่ แม้ว่าเป็นลาวร้านใหม่ขยายพื้นที่มากกว่าเดิม แต่กระนั้นก็ยังไม่พอกับลูกค้าที่ทะยอยเข้ามาไม่ขาดสาย วันนี้โชคดีนายกเต้จัดโต๊ะพิเศษสำหรับคณะสื่อมวลชน ถึงลูกค้าจะเยอะแต่อาหารเสิร์ฟเร็วมาก บริหารจัดการเยี่ยมค่ะ

พวกเราไม่ได้หิวกันเลย แต่สั่งไปเกือบทุกอย่างที่มีอยู่ในเมนู แปบเดียวอาหารทั้งหมดก็ถูกวางตรงหน้า ละลานตาจนไล่เลียงไม่หมดกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส้มตำสารพัดรูปแบบ ตำหลวงพระบาง ตำข้าวโพด ตำอะโวคาโด้ ลาบหมู ไก่นาย่างสมุนไพร ปีกไก่ทอด แหนม ไส้อั่ว ต้มแซ่บ ตับทอดนมสด เนื้อน่องลายลวกจิ้ม หมี่โคราช  ยำปลาดุกฟู เนื้อย่าง ฯลฯ เอาว่าทุกเมนูอร่อยแซ่บสมคำร่ำลือจริงๆ แต่อย่าลืมเหลือท้องไว้เผื่อขนมหวานด้วยนะคะ วันนี้แนะนำ “ขนมถ้วย” อร่อยมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม “เป็นลาว” จึงเป็นร้านอาหารในดวงใจของนักท่องเที่ยวที่จะต้องแวะมาให้ได้สักมื้อจริงๆ

เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การเลือกสรรวัตถุดิบที่สด สะอาด และใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนการปรุง อย่างที่นายกเต้บอกกับเราว่า “หัวใจของเราคือความสะอาด” แวะมาเถอะค่ะ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง รับรองไม่ผิดหวัง และถ้าติดใจในรสชาติเป็นลาว อย่าลืมซื้อผลิตภัณฑ์ของเป็นลาว ไม่ว่าจะเป็น น้ำปลาร้า แจ่วบ่อง น้ำพริกนรก ปลาย่าง แมงดา มันกุ้ง ผงแปลงลาบ  ติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านด้วยนะคะ

“เป็นลาว” ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ (ก่อนถึงทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 700 เมตร) ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ร้านเปิดให้บริการทุกวัน วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เปิด 09.30-18.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์ เปิด 09.30-20.00 น. ติดต่อสอบถามหรือโทรจองโต๊ะล่วงหน้า โทร. 083 461-3666 Line: @penlaos Facebook :PenLaos เป็นลาว

ขอบคุณ ภาพอาหารจากเฟซบุ้ค Penlaos

บ้านเธอ…ร้านอาหารเล็กๆ อบอุ่นเหมือนทานข้าวบ้า

มีผลผลิตจากสวนเอเดนวางจำหน่ายด้วย

บ้านเธอเป็นร้านอาหารน้องใหม่ของเขาใหญ่ ตัวร้านเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ตกแต่งด้วยสไตล์คันทรี่อีสาน หน้าบ้านเป็นลานกว้าง ตั้งแคร่และผูกเปลใว้ให้แขกได้นั่งเล่น นอนเล่น ใต้ต้นไม้ใหญ่ตั้งโต๊ะอาหารปูผ้าประดับด้วยดอกไม้และเทียน บรรยากาศเหมือนมานั่งทานข้าวบ้านเพื่อนเลย

ถึงจะเป็นน้องใหม่ในย่านนี้ แต่ฝีมือเลืองลือไปถึงคนกรุงเทพฯ เลยตั้งใจว่ามาเขาใหญ่ครั้งนี้ จะต้องแวะมาชิมฝีมือพี่วิทย์ให้ได้ “พี่วิทย์” แห่ง Mom’s Cuisine เป็นพ่อครัวที่มีประสบการณ์มาอาหารมาก่อนที่จะย้ายมาเปิดร้านที่เขาใหญ่ เพราะฉะนั้นเรื่องรสชาติอาหารหายห่วง แม้จะเป็นเมนูอาหารไทยง่ายๆ แต่พี่วิทย์ใส่เสน่ห์ปลายจวักเข้าไป ทำให้อาหารเลิศรสขึ้นเหลาได้เลย

ไม่ว่าจะเป็นผัดกระเพราที่รสชาติจัดจ้านถึงเครื่อง ต้มกระดูกหมูแบบโบราณ ใส่ถั่วลิสงและหัวไชโป๊ะ เป็นเมนูที่หาทานยาก รสชาติกลมกล่อมมาก อีกเมนูที่ใครได้ทานต้องสั่งซ้ำ “เนื้อเค็มทอด” รสชาติกำลังดี ไม่เค็มหรือแห้งเกินไป ปกติจะไม่ค่อยทานเนื้อ แต่มาที่นี่ต้องจัดสักหน่อย และ “ผัดบวบ” บวบอ่อนๆ ผัดกับไข่ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว แถมวันนี้ยังมีแกงเขียวหวานไก่รสเด็ดทานคู่กับขนมจีน ตบท้ายด้วยไอศกรีมอโวคโด้ ฝีมือเชฟเฟิสท์ “ครัวบินหลา” ที่ใช้อโวคาโด้ออร์แกนิคจากสวนเอเดนมาเป็นวัตถุดิบ เนื้อไอศกรีมเนียนละมุนด้วยเนื้ออะโวคาโด้ ฟินมาก 

บ้านเธอ บรรยากาศเหมือนบ้านจริงๆ
สนามหน้าบ้านมีมุมให้นั่งเล่นนอนเล่นได้

ใครอยากทานอาหารไทยง่ายๆ รสชาติดี แวะมาที่ร้านบ้านเธอกันนะคะ ร้านอาหารเล็กๆ น่ารัก บรรยากาศเป็นกันเอง อาหารอร่อย ราคาไม่แพง ยกให้เป็นหนึ่งในร้านอร่อยของเขาใหญ่เลยค่ะ

ร้านอาหารบ้านเธอ ตั้งอยู่ริมถนนธนรัชต์ เปิดบริการทุกวัน

Queen of Bakery ราชินีเบเกอรี่แห่งในเขาใหญ่

พี่นิ่มเจ้าของร้านขนมและอาหารอร่อยของเขาใหญ่

ไม่เกินจริงเลยที่จะยกให้ Queen of Bakery เป็นที่สุดของเบเกอรี่ในย่านนี้ เพราะทางร้านใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมในการรังสรรค์เบเกอรี่ทุกชิ้นให้น่ารับประทาน โดยเฉพาะ “ครัวซองต์” ของที่นี่หอมนุ่มชุ่มเนยไม่เหมือนที่อื่น ไม่เพียงเสิร์ฟให้ลูกค้าที่แวะมาทานที่ร้านเท่านั้น เขายังส่งให้กับคาเฟ่ รวมทั้งโรงแรม รีสอร์ท หลายแห่งในเขาใหญ่

เก้าอี้ Queen ที่ทุกคนต้องเช็คอิน

Queen of Bakery เปิดบริการมา 3 ปีแล้ว ตอนนี้เขาย้ายจากร้านเดิมที่ปรับเป็นร้านอาหารมาอยู่ด้านข้างแทน แม้พื้นที่จะเล็กลง แต่แบ่งสัดส่วนได้ลงตัว ตัวร้านตกแต่งด้วยเรียบง่ายด้วยโทนสีไม้ เติมความหรูด้วยเก้าอี้กำมะหยีหลากสี ผนังสีขาวเพ้นต์รูปดอกไม้และขนมเค้กและครัวซองต์ และ Queen of Bakery ของแท้ต้องมีเก้าอี้ Queen ซึ่งตอนนี้ถูกย้ายมาอยู่ที่ร้านใหม่แล้ว หลังจากเช็คอินที่เก้าอี้ควีนเสร็จก็มาสั่งกาแฟและขนมกันเลยค่ะ

เมนูในดวงใจของเรายังคงเป็น บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก เนื้อเนียนละมุนเหมือนเดิม ตามด้วย เรดเวลเวดชีสเค้ก ที่อร่อยไม่แพ้กัน มาช่วงนี้จะได้ทาน “เค้กทุเรียน” เค้กเนื้อครีมทุเรียน ท็อปปิ้งด้วยเนื้อทุเรียนชิ้นโต และที่ห้ามพลาดคือ “เค้กอะโวคาโด้” เนื้อเค้กเนียนละมุน ครีมอะโวคาโด้ไม่หวานมาก ท็อปปิ้งด้วยเนื้ออะโวคาโด้

เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านคือ “ครัวซองต์” หอมนุ่มชุ่มเนย มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบธรรมดาที่ไม่มีไส้ และครัวซองต์อัลมอนต์ ข้างในเป็นไส้ราสป์เบอร์รี่ หรือไวท์ฟรุ๊ตครัวซองต์ ตัวนี้สาวๆ ชอบสั่ง เพราะนอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้วยังอร่อยด้วย เมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลายอย่างทั้งชา กาแฟ เช่น Latte Art, Vanilla Affogato, Queen of Rose

Queen of Bakery ตั้งอยู่บนถนนธนรัชต์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ ปิด 18.00 น. หยุดวันพุธ โทรสอบถาม 062 545 2354

เฮือนแม่ญิ๋ง ยกอาหารเหนือมาไว้ที่เขาใหญ่

มาเขาใหญ่ก็มีอาหารเหนือให้ทานนะคะ เพราะเจ้าของร้านพี่นิ่มเป็นสาวเหนือที่ย้ายเฮือนมาอยู่เขาใหญ่เกือบ 20 ปีแล้ว เฮือนแม่ญิ๋งเพิ่งเปิดตัวได้ 2 เดือน แต่ผลตอบรับดีเกินคาด ลูกค้ามีนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ มาที่นี่เมนูที่ต้องห้ามพลาดคือ “ข้าวซอย” ซึ่งมีทั้งเนื้อและไก่ให้เลือก อีกหนึ่งเมนูที่ขายดีคือ “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” รสชาติเหมือนไปนั่งทานที่เชียงรายเลย

เมนูอาหารอาจจะมีไม่กี่อย่าง แต่ทุกเมนูคัดแล้วว่าเด็ด ลูกค้าส่วนใหญ่จะสั่งมาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแกงฮังเล แกงโฮะ ลาบคั่ว ไส้อั่ว หมูเส้น น้ำพริกหนุ่ม ทานกับผักสดออร์แกนิค เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่เครื่องแกงทำเอง สดใหม่ทุกวัน  วัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากทางเหนือ เพื่อให้ได้รสชาติของอาหารเหนืออย่างแท้จริง ยิ่งได้นั่งทานในบรรยากาศที่ตกแต่งให้มีกลิ่นอายของภาคเหนือ ก็เหมือนยกอาหารเหนือมาที่เขาใหญ่เลย  

เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ By Queen เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ศุกร์ เสาร์  อาทิตย์ ปิด 8.00-18.00 น. หยุดวันพุธ

https://www.facebook.com/ เฮือนแม่หญิง เขาใหญ่ บายควีน และ ควีนออฟเบเกอรี่@เขาใหญ่

ร้านกินลมชมวิว เขาใหญ่ อาหารอร่อย บรรยากาศดี

“กินลมชมวิว เขาใหญ่” เป็นร้านอาหารสไตล์ไทย-เวสต์เทิร์น บรรยากาศร้านคล้ายโรงนาผสมบ้านทรงไทย หลังคาทรงสูง เปิดโล่งให้เห็นวิวทุกด้าน โครงสร้างเหล็กสีดำ ผสมปูนเปลือย สไตล์มินิมอล เรียบง่าย ด้านหลังมีบันไดขึ้นสู่ระเบียงเปิดโล่ง มองเห็นวิวภูเขาและต้นไม้สุดสายตา ส่วนครัวแยกเป็นอาคารเอกเทศ ไม่วุ่นวาย บรรยากาศเหมาะกับการสังสรรค์เพื่อนฝูงและครอบครัว

กินลมชมวิว เขาใหญ่ มีอาหารไทยและฝรั่งให้เลือกมากมาย อาทิ ปลากะพงผัดพริกเกลือ, ผัดกระหล่ำปลีน้ำปลา, ปีกไก่ชุบแป้งทอด, ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ส้มตำ อาหารฝรั่ง เช่น สเต็กเนื้อ หมู ปลา ซึ่งเขาใช้เนื้ออย่างดีจากออสเตรเลีย เกรด Grain Fed นอกจากนี้ยังมีแฮมเบอร์เกอร์ พาสต้า ซุป สลัด เครื่องดื่มมีทั้งซอฟต์ดริ๊ง ค็อกเทล มอคเทล ที่สำคัญคือเขาใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยม ผักสดปลอกสารจากฟาร์มออร์แกนิก เพราะอยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ใครผ่านมาย่านนี้อย่าลืมแวะมาอุดหนุนกันนะคะ

คุณเตเต้ พันชนะ นำผลไม้มาแสดงความยินดีกับคุณเจ๊ค เจ้าของร้านกินลมชมวิวเขาใหญ่

ร้านกินลมชมวิว เขาใหญ่ :  ต.โป่งตาลอง  อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

แผนที่ร้าน: https://goo.gl/maps/MQtMDNJi4DZNoZ996

 เมนูอาหาร: https://anyflip.com/gqqji/kmqj/

ขอบคุณ ภาพร้านอาหารบางส่วนจากเฟซบุ๊ค กินลมชมวิวเขาใหญ่

ร้านเปิดทุกวัน: จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 20.00 น. โทร: 098 269 0334

ขอบคุณ : คุณพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่

  • #ปากช่องเมืองผลไม้GI
  • #สวนเจ้าเงาะ
  • #สวนผักปากช่อง
  • #สวนเอเดนออร์แกนิกส์ปากช่อง
  • #บ้านเธอ
  • #เป็นลาว
  • #elcafe
  • #wellnesskorat
  • #queenofbakerykhaoyai
  • #thepianoresort
  • #ครัวบินหลา
  • #แกงเหลืองทุเรียนอ่อนครัวบินหลา
  • #สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่