“โดม จารุวัฒน์” ชวนคนไทยหยุด Cyberbully แชร์ประสบการณ์ตรง จากคำพูดแทงใจ สู่วันที่ภูมิต้านทานแกร่งรับมือคนบูลลี่ ผ่านแคมเปญ AIS อุ่นใจCyber โปรดเรียกฉันด้วยชื่อฉัน

เมื่อโลกออนไลน์มีบทบาทในสังคมและชีวิตประจำวันของคนยุค 5G มากขึ้น ซึ่งการใช้เทคโนโลยีมีทั้งข้อดีที่เป็นประโยชน์และสะดวกในหลายด้าน ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียที่บางครั้งเป็นมีดแหลมแทงใจ หากการแสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียลไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน จนก่อให้เกิดการ Cyberbully หลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในยุคนี้แล้ว

โดย “โดม จารุวัฒน์” ผู้ต้องต่อสู้และอดทนกับคำบูลลี่หนัก ร่วมกับ เอไอเอส โดยเอไอเอส อุ่นใจไซเบอร์ รณรงค์การถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ผ่านกิจกรรม โปรดเรียกฉันด้วยชื่อฉันPlease Call Me By My Name” ชวนให้คนไทยตื่นตัวและตระหนักถึงการหยุดไซเบอร์บูลลี่ ด้วยการหยุดเรียกแทนตัวบุคคลจากรูปร่าง หน้าตาหรือผิวพรรณ หันมาอ่อนโยนต่อกันด้วยการเรียกชื่อซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำ

เนื่องในวัน Stop Cyberbullying Day ที่กำหนดให้วันศุกร์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายนในทุกๆ ปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 17 มิถุนายน เอไอเอส อุ่นใจไซเบอร์ จึงพร้อมเป็นกระบอกเสียงให้คนไทยได้ตระหนักถึงความรุนแรงในการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ด้วยถ้อยคำเชิงบูลลี่ เพื่อหยุดการกระทำ Cyberbully สร้างสังคมออนไลน์ใหม่ที่สร้างสรรค์ โดยได้ “โดม จารุวัฒน์” นักร้องมากความสามารถ ตำแหน่งแชมป์เดอะสตาร์ 8 เล่าถึงประสบการณ์จริงที่ต้องทนกับการถูกบูลลี่มาตั้งแต่เด็กและต้องเก็บความช้ำไว้ในใจ หนำซ้ำยังหนักขึ้นเมื่อเข้าวงการบันเทิงที่ไม่ได้บูลลี่ต่อหน้า แต่ถูกบันทึกไว้ในโลกออนไลน์ เห็นข้อความในวงกว้างผ่านการโดน Cyberbully

โดมเล่าหมดเปลือกถึงความรู้สึกที่ถูกบูลลี่ว่า “ต้องแบกรับคำบูลลี่มาตั้งแต่วัยเรียนที่โดนหนักถูกเรียกชื่อด้วยสายพันธุ์สุนัขสายพันธุ์หนึ่ง โดยยอมรับว่าไม่ชอบใจอย่างมาก ซึ่งพยายามเลี่ยงมาโดยตลอด หนักขึ้นเมื่อได้เข้าวงการบันเทิง ประกอบการผู้คนเข้าถึงโซเชียลมีเดียมากขึ้น ตนเองก็ถูกล้อผ่านรูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หุ่น หรือผิวพรรณ รวมไปถึงเคยอ่านข้อความในโลกออนไลน์จนทำให้สุดช็อค เมื่อครั้งถ่ายแบบนิตยสารแต่มีคนแสดงความคิดเห็นว่าตนทำให้ปกนิตยสารเล่มนั้นไม่สวย เป็นคำพูดแทงใจอย่างมากกับคนที่ยังไม่มีภูมิต้านทานที่มากพอในการทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งช่วงนั้นทำได้เพียงแค่ปรับตัว ทำใจกับคำพูดที่ต้องเผชิญเพียงเท่านั้น

ความเคยชินไม่ใช่สิ่งที่ใครจะต้องก้มหน้ายอมรับในการถูกบูลลี่ ด้วยวัยวุฒิที่มากขึ้นทำให้โดมกล้าที่จะพูดเตือนสติคนที่แสดงความคิดเห็นโดยไม่กลั่นกรองความคิด โดยโดมเผยว่า “การถูกเรียกด้วยลักษณะทางรูปร่างมีเส้นแบ่งบางๆ ในจุดที่ว่าเรียกด้วยความเอ็นดู ความเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพ หรือเป็นการบูลลี่ แต่หากเป็นการนำปมด้อยในตัวมาเรียกนั้นตนมองว่าเป็นการบูลลี่ที่แรงเกินไป โดยช่วงแรกที่เจอเลือกที่จะเดินหนี แต่ด้วยภูมิต้านทานที่มีมาตลอดกับการถูกบูลลี่และวัยวุฒิที่โตขึ้น จึงเลือกที่จะอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ดี สามารถเลือกคำพูดอื่นๆ มาเรียกทักทายกันได้”

โดมเป็นอีกเสียงที่สนับสนุนให้ทุกคนลุกขึ้นมารวมพลังสร้างคอนเทนต์ Please Call Me By My Name จากทาง เอไอเอส อุ่นใจไซเบอร์ โดยเผยเพิ่มเติมว่า “คนเราควรจะเรียกชื่อ หรือจะเรียกจากสิ่งที่ทำให้จดจำตนได้ในมุมดีๆ อย่างเช่น การได้เป็นเดอะสตาร์ หากเรียก โดม เดอะสตาร์ ก็น่าจะทำให้บรรยากาศในการพูดคุยนั้นดีกว่า แคมเปญ Please Call Me By My Name ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ตนเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าถ้าไม่รู้จะทักกันด้วยคำพูดไหน ก็ทักทายกันด้วยชื่อของคนนั้นๆ ไม่ต้องมีความซับซ้อน แม้แต่ละคนจะเติบโตกันมาต่างกัน ในคำพูดที่ต้องการจะแสดงถึงความเอ็นดู แสดงความสนิทสนม แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปควรตระหนักถึงคำพูดมากขึ้น ขอเป็นอีกเสียงที่อยากบอกว่า ไม่ยากที่เราจะทักกันด้วยชื่อ และเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้โดยง่าย”

ร่วมหยุดการ Cyberbully ลดบาดแผลทางจิตใจกับผู้อื่น เพื่อให้สังคมน่าอยู่โดยคิด ไตร่ตรอง กลั่นกรองให้ถี่ถ้วนก่อนจะพูดหรือพิมพ์สิ่งใดออกไป ไม่ให้คำพูดนั้นต้องเป็นรอยแผลที่ฝังในใจจนอยากที่จะลบเลือน โดยเอไอเอส อุ่นใจไซเบอร์ ยังขอยืนหยัดพร้อมเป็นอีกเสียงที่ช่วยสร้างสังคมใหม่ หยุดบูลลี่ด้วยคำเจ็บปวดและเรียกชื่อที่น่าภูมิใจ กับ โปรดเรียกฉันด้วยชื่อฉัน Please Call Me By My Name ลิงค์วิดีโอดาวน์โหลดคลิป https://drive.google.com/drive/folders/1OXSK6qrfBCoTASq4WX4JxgkPccUNttix