แนวโน้มอุตสาหกรรมสุขภาพความงาม และเทรนด์ศัลยกรรม 2024 ส่วนแบ่งการตลาด ขนาด การคาดการณ์ การเปลี่ยนแปลงของตลาด ภูมิทัศน์การแข่งขัน เหตุการณ์ และการพัฒนาอุตสาหกรรม

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ของอุตสาหกรรมด้านความงามอันดับต้นของประเทศไทยและเอเชีย เปิดเผยถึงอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามของไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 71,000-72,000 ล้านบาท ขยายตัวราว 2.3% -3.6% (YoY) ทยอยกลับมาฟื้นตัวภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย แต่มูลค่าดังกล่าวยังไม่กลับไปเท่าก่อนโควิด-19 และตัวเลขการเติบโตในภาพรวม อาจไม่ได้สะท้อนผลประกอบการที่ดีขึ้นของผู้ประกอบการทุกราย ขึ้นอยู่กับการตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งในเรื่องของค่าบริการ รสนิยม คุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการ รวมถึงผลลัพธ์หรือความพึงพอใจในผลงานของแพทย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคมีต่อการเลือกใช้บริการธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามที่แตกต่างกันออกไป

(ข้อมูล: ศูนย์ข้อมูลกสิกรไทย)

และทั่วโลกคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตที่ประมาณ 13.2% ในช่วงปี 2024-2032 เพราะมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านศัลยกรรมความงาม และมาตรฐานของอุตสาหกรรมดังกล่าวในระดับสูง คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

ปัจจุบันกล่าวได้ว่าประเทศไทยเป็นเมืองหลวงด้านศัลยกรรมความงามของเอเชียตะวันออกเชียงใต้ และในเอเชียเราเป็นรองแค่เพียงประเทศเกาหลีใต้ โดยมีปัจจัยเอื้อคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์และความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของโซเชียลมีเดีย ทุกคนจึงสามารถเข้าถึงการทําศัลยกรรมความงามได้มากขึ้น (หมายเหตุ: ตลาดศัลยกรรมความของเกาหลีใต้มีมูลค่า 1.95 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากอิทธิพลของคนดังและมาตรฐาน K-beauty ที่สูง ตลาดคาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อไปในช่วงคาดการณ์ของปี 2024-2032 โดยเติบโตที่อัตราการเติบโตประจำปีแบบทบต้น (CAGR)13.2%)

จากสถิติมีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหัตถการที่โดดเด่นสองถึงสามอย่าง ได้แก่ การดึงหน้า ยกคิ้ว การทำตาสองชั้น การผ่าตัดปรับโครงสร้างหน้า ยุบโหนก ตัดกราม การเสริมจมูกโดยเฉพาะการปรับโครงสร้างจมูกโอเพน

ที่ผ่านมา MASTER ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามในเมืองไทย ด้วยการวางมาตรฐานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมแพทย์ หรือการทำราคาเดียว ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าที่ติดต่อผ่านมาทางช่องทางใดก็ตาม การปฏิวัติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ กระตุ้นให้ผู้คนจํานวนมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกเลือกทําศัลยกรรมความงามที่เมืองไทยเพื่อเพิ่มความงามของพวกเขา

ข้อมูลจาก Mintel บริษัทวิจัยระดับโลก รายงานแนวโน้มข้อมูลเชิงลึกถึงเทรนด์ที่เริ่มส่งผลต่ออุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม และก้าวต่อไปในปี 2024 อย่างไร

ความสัมพันธ์กันของจิตใจและร่างกาย

  • เทรนด์แรกที่ Mintel ระบุไว้คือ NeuroGlow (กายงามใจฟู / ใจสุขกายฉ่ำ) ช่วงชีวิตต่อไปของสุขภาพที่ดี จะเป็นความงามด้านคุณค่าทางจิตใจและร่างกาย ซึ่งทั้งภายในและภายนอกมีความเชื่อมโยงถึงกัน
  • นวัตกรรมนี้ได้ถูกใช้ประโยชน์แล้ว สำหรับกลุ่มความงาม และอาหารเสริมที่มุ่งเน้นให้ทั้งคุณประโยชน์ด้านความงามและความรู้สึกดีเพิ่มขึ้น ความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพจิตที่ดี การมีสุขภาพกายที่ดี สภาวะของจิตใจส่งผลโดยตรงต่อสภาพผิวพรรณ ความงาม ซึ่งบริการของมาสเตอร์ เป็นมากกว่าแค่การทำหัตถการ เราต้องการให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่า บริการของเราสามารถสร้างประสบการณ์ ความสุข ความภูมิใจ และปลอดภัย สุขภาพดี

ความงาม x ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

  • เทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในกระแส NeuroGlow ด้วยเช่นกัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เครื่องสร้างความเป็นจริงเสมือน (VR)  และเครื่องสร้างความเป็นจริงเสริม (AR) เป็นตัวสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล พร้อมติดตามชี้วัดความเป็นอยู่ว่าดีจริงหรือไม่ และให้คำปรึกษาด้วยการวิเคราะห์แนวทางการมีสุขภาพที่ดีแบบเสมือนจริง ตรงนี้จะเกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรมสุขภาพ การติดตามการรักษา การดูแลผู้ป่วย และผู้สูงอายุ
  • ปัญญาประดิษฐ์จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมความงาม โดยทำให้มีอัตลักษณ์เฉพาะบุคคล และมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากขึ้น ทั้งในแง่นวัตกรรมเทคโนโลยี และข้อมูลที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ความรู้และทักษะจะก้าวกระโดดไปพร้อมกัน
  • อย่างที่มีคนกล่าวไว้ว่า ผู้บริโภคมักจะไม่ไว้ใจต่อเทคโนโลยีเพราะข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคมักถูกเปิดเผย เพื่อสร้างความไว้ใจของผู้บริโภค จึงควรโฟกัสที่การปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคด้วยความโปร่งใส

เรียบง่าย

  • ใส่ใจ เข้าประเด็น

แบรนด์ต้องยืนหยัดความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นในการให้บริการ เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ไม่มีใครอยากฟังวิชาการทั้งหมด หรือเข้าใจทุกอย่างก่อนรับบริการ แต่เรายินดีเปิดเผยทุกอย่างในลำดับการบริการท่าน เพื่อความโปร่งใส

  • เรียบง่าย คือ พรีเมียม

เส้น สี และรูปแบบ การออกแบบภาพรวมเรียบง่าย ส่งผลให้สินค้าและบริการถ่ายทอดภาพลักษณ์พรีเมียม เพราะเมื่อย่นย่อรายละเอียดให้เข้าใจง่ายขึ้น ลดความจุกจิกลง ผู้บริโภคจะใช้เวลาคิดอ่านและพิจารณาไม่นานเกินไป

  • น้อยจุดแต่จัดหนัก

ผู้บริโภคจะมุ่งใช้จ่ายไปในจุดที่จำเป็นและเน้นคุณภาพสูงแทน จากตรงนี้ ทำให้ความคุ้มค่าของหัตถการที่ส่งผลสูงสุดต่อชีวิตได้รับคำแนะนำเพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน)

เทรนด์ชีวิตและมุมคิด 2024 เมื่อนำมาเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงาม

MASTER มองว่า “เราไม่ได้มาเปลี่ยนใครให้กลายเป็นคนอื่น สิ่งที่เรายึดมั่นเสมอคือ

Be a Better You เป็นเราในแบบที่ดีกว่าเดิม

การทำศัลยกรรมฯ ที่ รพ.มาสเตอร์พีช ยังคงป็นเรา ย้ำว่า เป็นเรา…อยู่เสมอ

แต่ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดที่เราจะเป็นได้

  • 1. ความพอเหมาะพอดี ไม่มากเกินไป

ถ้ามองจากงานของหัตถการ ไม่ว่าจะเป็น เสริม / ลด หรือ แก้ไข ปรับสภาพ ทุกอย่างจะมุ่งเน้นไปสู่ความไม่ใหญ่โต หรือแปลกแตกต่างจากธรรมชาติ เช่น การเสริมจมูกก็จะไม่แปลกแตกต่างจากโครงของเชื้อชาติกำเนิด หรือมากจนน่าตกใจ เสริมหน้าอกในความพอดี เหมาะกับสัดส่วนร่างกาย การเสริมขนาดน้องชายด้วยฟิลเลอร์ของคนเอเชีย ก็พิจารณาให้พอเหมาะพอดีกับคู่ชีวิต หรือการปลูกผม คิ้ว หนวด เครา ก็ให้เหมาะกับลุคส์ เหมาะกับตัวตน และวิถีชีวิต

  • 2. ความงามเฉพาะบุคคล ปรับให้เหมาะกับคนนั้น

หมดยุคของการนำรูปมาปรึกษา แล้วบอกว่า เอาแบบนี้ เราต้องการเป็นอย่างเขา ศิลปิน คนดัง คนนั้นคนนี้ เพราะท้ายสุดความเข้าใจในสัดส่วน สรีระ โครงสร้างใบหน้า ร่างกาย เฉพาะบุคคลเป็นสิ่งสำคัญกว่าจะเป็นไปตามหลักสมดุล ของทั้งตัวผู้รับบริการ และเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อเคสนั้นๆ เท่านั้น เราจะไม่มี นางสาวเอ สิบคน นางสาวบี ยี่สิบคน แต่จะมี นางสาวเราคนนี้คนเดียว สวยเหมือนกัน แต่ไม่ซ้ำกัน

  • 3. ความยั่งยืนของโลกศัลยกรรมความงาม ต้องมาจากความคุ้มค่า มาตรฐานและความปลอดภัย

เราพบข่าวเศร้าและสะท้อนสังคมบ่อยครั้ง จากการรับบริการการศัลยกรรมความงามในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ปลอดภัย โลกอุตสหกรรมอื่นๆ เชิงกายภาพ อาจลดการใช้ ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ สำหรับโลกธุรกิจบริการ คือการทำให้คุ้มค่า ซื้อเท่านี้ ได้เกินคุ้ม เกินคุ้มคือ ได้ของดี น่าพอใจ ไม่ต้องแก้ เพราะการแก้ศัลยกรรมมีค่าใช้จ่ายไม่แพ้กับการทำศัลยกรรม หรืออาจสูงกว่ามากหากอาการหนัก ฉะนั้นแล้วสังคมและผู้บริโภคจึงเริ่มตระหนักในข้อนี้ แต่ต้องไม่ตระหนก