เด็กไทยได้สานฝันเรียนต่อปริญญาตรี ต่อยอดอนาคต ด้วยทุนการศึกษาจากมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา

รอยยิ้มสดใสและใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของเยาวชนไทยกว่า 20 คน จากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ที่ได้รับทุนการศึกษาจาก มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นได้ดีถึงความสุขที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เฉพาะกับตัวน้องๆแต่ยังรวมไปถึงครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังด้วย และสำหรับ “วันเด็ก” 2565 เยาวชนไทยที่ได้รับโอกาสทางการศึกษาจากมูลนิธิฯได้ถือโอกาสในช่วงวันเด็ก เขียนจดหมายมาบอกเล่าความในใจและบอกถึงความเป็นอยู่ ชีวิตที่เปลี่ยนไป ความสุขและความฝันในอนาคตที่มีภายหลังจากได้รับทุน และได้รับโอกาสจากมูลนิธิฯ

โดยที่ผ่านมา โครงการมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ได้มอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่มีความประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่ต้องการเรียนต่อชั้น ม.1 ชั้น ม.4 หรือ ปวช.1 เพื่อให้ได้มีโอกาสศึกษาจนจบระดับปริญญาตรีมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเยาวชนไทยได้รับทุนการศึกษาไปแล้วจำนวน 2 รุ่น 22 คน (ปี 2563 – 2564) นับเป็นการสานฝันครั้งสำคัญให้กับเยาวชนไทยให้ได้มีโอกาสเรียนต่อ และก้าวไปสู่การตามความฝันในเส้นทางอาชีพในอนาคตอีกด้วย

ด.ญ.รสิกา ขวัญคุ้ม หรือน้องส้ม นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนดงตาลวิทยา จ.ลพบุรี นักเรียนทุนปี 2563 บอกว่า ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่อยู่กัน 12 คน อาศัยอยู่บนเล้าไก่ร้างของนายจ้าง ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ความเป็นอยู่ลำบาก ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะเกิดน้ำท่วมทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินทาง อีกทั้งแม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก แม้ว่าจะมีเบี้ยผู้พิการบวกกับรายได้จากการเรียงเข่งปลาก็ไม่เพียงพอเพราะรายได้ไม่แน่นอน ช่วงวันหยุดตนจะช่วยแม่ด้วยการเก็บผักบุ้งไปขาย การได้ทุนจากมูลนิธิฯ ทำให้ตนสามารถเรียนต่อได้จนจบปริญญาตรี ถ้าไม่ได้ทุนคงเรียนได้ถึงแค่ ม.3 เท่านั้น ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ตนอยากเรียนพยาบาลเพื่อจะได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ และคนในครอบครัว เพื่อให้แม่ภูมิใจให้สมกับที่ได้รับทุน ในอนาคตจะได้มีงานดีๆ ทำเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

ด.ญ.รมณี เทพอินแดง หรือน้องสายป่าน นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง นักเรียนทุนปี 2563  บอกว่า ตนเติบโตมาท่ามกลางความเงียบ เนื่องจากแม่ น้าสาว และคุณลุง เป็นใบ้กันหมด มีแค่ตนกับน้องชายฝาแฝดเท่านั้นที่เป็นปกติ ที่บ้านไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ต้องรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอนอาศัยเพียงเบี้ยคนพิการ ตนมีทักษะทางด้านกีฬาคุณครูจึงสนับสนุนให้เป็นนักกีฬามวยสากล และได้เหรียญทองแดงจากการเข้าร่วมการแข่งขันมวยสากลยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ทุกวันหลังเลิกเรียนจะต้องฝึกซ้อมมวย แต่ตนไม่เหนื่อยและจะขยันซ้อมให้มาก เพราะการเป็นนักมวยอาชีพคือฝันที่ตั้งใจไว้และต้องทำให้ได้ ส่วนอีกความฝันคือการเป็นทหาร เพราะว่าจะได้ช่วยเหลือประชาชนในวันข้างหน้า การได้รับทุนจากมูลนิธิฯ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป ได้เรียนหนังสือสูงๆตามความฝันที่อยากเรียนจบปริญญาตรี และยังช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้อีกด้วย

น.ส.ศิลดา ศรีสุวรรณ หรือน้องอั้ม นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนหนองรีประชามิต จ.กาญจนบุรี นักเรียนทุนปี 2563 เล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับตาที่เป็นอัมพาต, ยาย, อา และน้องอีกสองคน แม่เสียชีวิตแล้ว ที่บ้านเป็นบ้านชั้นเดียวมุงสังกะสี ยายรับจ้างแบกหาม ทำงานก่อสร้าง ขุดมัน เก็บแตงกวา หาเลี้ยงทั้งครอบครัว ตนอาศัยเวลาหลังเลิกเรียนไปช่วยยายรับจ้างปอกต้นหอมถึงประมาณห้าทุ่ม เที่ยงคืน ตนไม่อยากให้ยายทำงานหนักเพราะกระดูกไม่ค่อยดี แต่ยายบอกว่าถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงิน โชคดีที่ได้รับทุนจากมูลนิธิฯ ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระของยายไปได้บ้าง เพราะในตอนแรกเกือบจะไม่ได้เรียนแล้ว ชีวิตคงลำบากกว่านี้มาก ตอนนี้น้องคนกลางไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว ส่วนคนเล็กอยู่ ป. 6 การที่ได้เรียนต่อจะทำให้ตนมีงานทำในอนาคต ตั้งใจไว้ว่าถ้าเรียนจบแล้วจะรีบหางานทำมาส่งเสียให้น้องได้เรียนสูงๆ โดยอยากทำงานด้านนักจัดการสายโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า เพราะมองว่าเป็นอาชีพที่ตลาดต้องการ ซึ่งน่าจะทำให้หางานได้ไม่ยากและสามารถมีเงินมาจุนเจือครอบครัวได้

ทั้งนี้ การมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ให้กับเยาวชนที่ขาดแคลนเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา  อดีตประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมและให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนที่มีความประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นการส่งต่อโอกาสและสร้างอนาคตที่ดีให้กับอนาคตของชาติ โดยมูลนิธิฯ จะเปิดรับสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษาในช่วงระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2565 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.vichaisrivaddhanaprabha.com หรือโทรศัพท์ 02-677-8888 ต่อ 1221 , 1222