GISTDA ได้วิเคราะห์ข้อมูลภาพจากดาวเทียม Sentinel-2B พบปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีบริเวณอ่าวไทยตอนบน และบริเวณใกล้ชายฝั่ง
จากการวิเคราะห์และประเมินพื้นที่ร่วมกับข้อมูลกระแสน้ำจากระบบเรดาร์ชายฝั่ง คาดว่าพื้นที่ที่มีแนวโน้มอาจจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ดังกล่าว คือพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งของตำบลอ่างศิลา และตำบลแสนสุข อำเภอเมือง และตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี (กรอบสีแดง)
ปรากฏการณ์ดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว (bloom)ของ Phytoplankton (แพลงก์ตอนพืช สิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารได้ด้วยตัวเอง) ซึ่งจะมีทั้งชนิดที่มีพิษและไม่มีพิษโดยจะเกิดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนมากจะเกิดช่วงฤดูฝน เนื่องจากมีมวลน้ำจากบกที่มีปริมาณสารอาหารสำหรับพืชน้ำไหลลงสู่ทะเล ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ปริมาณสารอาหารในน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบต่างๆ ในน้ำ เป็นต้น ทำให้ค่อนข้างยากต่อการคาดการณ์การเกิด โดยปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบ ในหลายด้าน เช่น
- คุณภาพน้ำชายฝั่งเน่าเสีย เนื่องจากการเน่าสลายของ Phytoplankton พวกนี้ จะมีผลต่อสัตว์ทะเลทำให้ขาดออกซิเจนและตายได้
- ทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวลดน้อยลง เนื่องจากน้ำชายฝั่งเน่าเสีย ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำในทะเล
- สัตว์ทะเลที่กิน Phytoplankton เหล่านี้เข้าไป ถ้าเป็นชนิดมีพิษ จะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้
- มีผลกระทบกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งได้
ทั้งนี้ Plankton Bloom หรือปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีหรือปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ (water discolouration)เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว (บลูม หรือ Bloom)ของแพลงก์ตอนพืช เนื่องจากแพลงก์ตอนเหล่านี้ต่างก็มีสีในตัวเอง เมื่อเกิดการเจริญเติบโตจำนวนมาก จึงทำให้สีของน้ำทะเลเปลี่ยนไปตามชนิดของ phytoplankton
ดังนั้น ช่วงนี้ถ้าจะทานอาหารทะเล ต้องระวังหน่อยครับ
#GISTDA #จิสด้า #ก้าวสู่ปีที่21 #เรดาร์ชายฝั่ง #bloom #ชายฝั่งทะเล #อ่าวไทยตอนบน #บางแสน #แสนสุข #อ่างศิลา #บางพระ #ศรีราชา #ชลบุรี #อาหารทะเล #สัตว์ทะเล #น้ำทะเลเปลี่ยนสี