ฟรีสแลนด์คัมพิน่าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน #วันอาหารโลก ตอกย้ำพันธกิจในการมอบโภชนาการที่ดีให้แก่ทุกคนในสังคม
บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนมโคคุณภาพหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ โฟร์โมสต์ นกเหยี่ยวฟอลคอน และเดบิค ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง #วันอาหารโลก หรือ #WorldFoodDay ประจำปี 2564 ด้วยการตอกย้ำพันธกิจองค์กร ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเปี่ยมด้วยโภชนาการและสารอาหารที่จำเป็น ในราคาที่เข้าถึงได้และเสริมสร้างความยั่งยืนให้ทั้งกระบวนการผลิต เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่สุขภาพของผู้บริโภค พร้อมลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations, FAO) ได้กำหนดให้วันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันอาหารโลก (World Food Day) จากข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ของ FAO (www.fao.org/world-food-day) ระบุว่า มีคนกว่า 3 พันล้านคน หรือราว 40% ของประชากรทั่วโลก ไม่สามารถจ่ายเงินซื้ออาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพได้ และเกือบ 2 พันล้านคน ประสบปัญหาน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน จากการได้รับโภชนาการที่ไม่ดีและมีพฤติกรรมที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของคนทั่วโลก อาจเพิ่มสูงกว่า 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573
ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร มีอัตราการจ้างงานมากกว่า 1 พันล้านคน ซึ่งมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จึงสามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมีนัยสำคัญ เกษตรกรรายเล็ก ผลิตอาหารคิดเป็น 33% ของอาหารโลก ซึ่งประสบปัญหาและความท้าทายในการประกอบอาชีพจากความยากจน การไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมได้ ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสหกรณ์โคนมที่มีสมาชิกเกษตรกรมากที่สุดและมีมาอย่างยาวนานกว่า 150 ปี รวมถึงเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนมโคคุณภาพหลายแบรนด์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีเป้าหมาย เพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ ให้สังคม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต ผ่านโครงการ Dairy Development (พัฒนาคุณภาพน้ำนม) ที่เป็นการแบ่งปันองค์ความรู้จากเนเธอร์แลนด์ การจัดอบรมให้เกษตรกรไทย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารนมที่มีคุณภาพ อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในราคาที่เข้าถึงได้ให้แก่ผู้บริโภคทุกกลุ่ม
และด้วยการเป็นองค์กรระดับนานาชาติ ฟรีสแลนด์คัมพิน่าจึงดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าว ทุกประเทศ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ซึ่งหลายประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว องค์กรยังคงเดินหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำนมโคคุณภาพตามแนวทางด้านความยั่งยืน ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรโคนม โดยฟรีสแลนด์คัมพิน่าได้เข้าถึงเกษตรกรโคนมมากกว่า 250,000 รายทั่วโลก ใน 8 ประเทศหลัก ทั้งในทวีปเอเชีย แอฟริกา และยุโรปตะวันออก มอบโอกาสให้เกษตรท้องถิ่นได้สามารถเข้าถึงตลาดมากกว่า 75,000 ราย ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโภชนาการที่ดี ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของแบรนด์ต่างๆ