ได้เวลาฟื้นชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนด้วยศิลปะสีสันและแสงไฟ ในเทศกาล Awakening Bangkok -RE:VIVE

Time Out Bangkok ผู้จัดงาน Awakening Bangkok ผนึกพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เนรมิตเทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ Awakening Bangkok – RE:VIVE ปลุกคนกรุงเทพฯ ให้กลับมามีสีสัน เร่งฟื้นคืนชีวิต และเศรษฐกิจให้กับชุมชน ผ่านงานแสดงศิลปะผ่านแสง สี และเสียง ณ ย่านสร้างสรรค์ เจริญกรุง-ตลาดน้อย พร้อมขยับสู่ ย่านนานา เยาวราช ตั้งแต่ 25 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ก่อนยกระดับสู่เทศกาลนานาชาติระดับประเทศ เตรียมขยายพื้นที่การจัดงานสู่พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญในขอนแก่น และเชียงใหม่ ปลายปีนี้ เพื่อร่วมฟื้นเศรษฐกิจชุมชน

นายพงศ์สิริ เหตระกูล กรรมการบริหาร Time Out Bangkok

นายพงศ์สิริ เหตระกูล กรรมการบริหาร Time Out Bangkok (ไทม์เอาต์ กรุงเทพฯ) และ Festival Director งานเทศกาล Awakening Bangkok กล่าวว่า การจัดงาน Awakening Bangkok หรืองานแสดงศิลปกรรมไฟประจำปี มีการเติบโตขึ้นมาก โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทุกครั้งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีจากทั้งศิลปิน นักออกแบบ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมชมงาน เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น มีการขยายตัวของชุมชนศิลปินและนักออกแบบไทยได้กว้างขวางมากขึ้น การจัดงานในปี 2563 มีผู้เข้าร่วมชมงาน 126,681 คน จากการจัดงานทั้ง 10 วัน โดยในวันที่มีผู้เข้าชมสูงสุดนั้นมีมากถึง 21,865 คน เกิดการแฮชแทคชื่องานผ่านทางช่องทางต่างๆ ของโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Economy Impact) ได้ถึง 158.16 ล้านบาท

The Catcher
Artist: De-selected
Location: Patina Cafe
สิ่งชั่วร้ายสามารถเข้าหาเราได้ทุกช่องทาง ทุกรูปแบบ แม้แต่ในโลกของความฝัน แต่เราก็มีวิธีป้องกันมันรูปแบบ ทุกช่องทาง แม้แต่ในโลกของความฝันเช่นกัน Dreamcatcher หรือ ตาข่ายดักฝันร้าย ชิ้นใหญ่นี้จะช่วยให้ทุกค่ำคืนนับจากนี้จะไม่มีฝันร้ายอีกต่อไป

“งาน Awakening Bangkok ปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “RE:VIVE”  ฟื้นคืนชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนด้วยสีสันและแสงไฟ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 เป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนโลเคชันถึง 31 จุด จำนวนชิ้นงานถึง 52 ชิ้นงาน โดยขยายพื้นที่จัดแสดงที่ครอบคลุมย่านเก่าของกรุงเทพฯ มากขึ้น ตั้งแต่เจริญกรุง – ตลาดน้อย ซึ่งเป็นลักษณะของ Creative Neighborhood ไปจนถึงซอยนานา เยาวราช ที่จะเป็น Cultural Neighborhood ร่วมกับการจัดกิจกรรมน่าสนใจรูปแบบใหม่ๆ จากพันธมิตร โดยกิจกรรมประกอบด้วย งานแสดงแสงไฟ (Lights) ดนตรี (Music) และการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนในรูปแบบต่างๆ (Economy)

Silk (ทอ)
Artist: ASITNAHC
Location: Patina Cafe
สัมผัสความประณีตของ ‘ผ้าไหมไทย’ ที่ถูกฟื้นฟูและบอกเล่าผ่านงานศิลปะดิจิทัลที่ถักทอด้วยความตั้งใจของศิลปินรุ่นใหม่ผู้หลงใหลในผืนผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย

“ขณะเดียวกัน การเดินเท้าชมงานตลอดทางยังเปิดโอกาสให้เกิดการจับจ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้ประกอบการท้องถิ่น ตลอดเส้นทางที่เชื่อมต่อย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย-ซอยนานา นอกจากนั้นยังมีมีรถตุ๊กๆ ให้บริการการเดินทางเพื่อให้ได้ชมงานได้ครบทุกจุดอีกด้วย

สถานะ (3 Stages of Us)
Artist: Lapisara
Location: Baan Rim Naam
สภาพแวดล้อมสมมุติที่เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ ซึ่งจำลองมาจากบัว 3 เหล่า ได้แก่ บัวพ้นน้ำ บัวปริ่มน้ำ และบัวใต้น้ำ ที่ถูกนำมาเรียกแทนเวไนยสัตว์ หรือ บุคคล 3 จำพวกที่ต่างกันด้วยความสามารถในการบรรลุคำสอน
น้ำท่วมฟ้า ปลากินดาว
Artist: Kamin & Promphorn
Location: Baan Rim Naam
คืนชีวิตซากต้นไม้จมน้ำจากริมแม่น้ำท่าจีนด้วยแสงสีและเทคโนโลยี AR เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของกลุ่มคนไกลตัวที่อยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เป็นทั้งความเดือดร้อนและช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นแบบจำใจ Light to Speak ในที่นี้จึงเท่ากับ A Right to Speak ที่ชวนทุกคนมาส่งเสียงผ่านไมโครโฟนรูปปากแตรเพื่อปลุกความสว่างไสวให้เส้นไฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก sound tube ในสนามเด็กเล่น

งานปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เราจะมีโปรแกรม Walk Tour ตอนกลางวันในหลากหลายธีม ไม่ว่าจะเป็นทริปชิมของว่างสูตรลับที่สะท้อนประวัติศาสตร์ของชาวจีนโพ้นทะเล ทริปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ 5 วัฒนธรรมจีนในย่านตลาดน้อย และทริปถ่ายรูปสถาปัตยกรรมเก่าอายุกว่าร้อยปีที่ซ่อนตัวในตรอกเล็กย่านทรงวาด เดินอุ่นเครื่องก่อนไปต่องานไฟกันในตอนค่ำ ซึ่งคาดหวังให้การขยายพื้นที่และมีกิจกรรมจากพันธมิตรมากขึ้นในครั้งนี้่ จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของชุมชนในย่านเก่าเหล่านี้ ให้คึกคักมากขึ้นหลังจากซบเซามานานจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้งาน Awakening Bangkok ที่เดิมทีต้องจัดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ต้องเลื่อนการจัดงานมาในปีนี้ด้วยเช่นกัน” 

Sphere
Artist: Saturate Designs
Location: โซง เฮงไถ่
สวนเรืองแสงที่เต็มไปด้วยวัตถุทรงกลมอันเป็นศูนย์รวมแห่งพลังงานที่นํามาซึ่งความสงบนิ่งของจิตใจและยังเปรียบเสมือนพลังงานชีวิตที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

นอกจากกิจกรรมที่น่าสนใจแล้ว การยกระดับอีเวนต์ยังเป็นสิ่งที่ผู้จัดงานให้ความสำคัญในปีนี้ โดย Time Out Bangkok ต้องการพัฒนางาน Awakening Bangkok ให้เป็นงานระดับสากลมากขึ้น และก้าวไปสู่งานระดับประเทศ ตั้งเป้าหมายให้กลายเป็น งานเทศกาลนานาชาติระดับประเทศ ประจำปีของชาวไทย และเป็นเป้าหมายการเดินทางของชาวต่างชาติในอนาคต จึงได้เริ่มทำ 3 สิ่งใหม่ ได้แก่

  1. เว็บแอปพลิเคชัน Awakening Bangkok เพื่อให้รายละเอียดของศิลปินและแรงบันดาลใจในแต่ละชิ้นงาน พร้อมทั้งบอกระยะทางของจุดแสดงจากตำแหน่งที่อยู่ ข้อมูลร้านอาหารและบาร์ในบริเวณใกล้เคียง และที่สำคัญมีการแสดงให้เห็นถึงปริมาณคนชมงาน (Capacity) ในจุดต่างๆ เพื่อพิจารณาถึงการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ด้วย
  2. การจดลิขสิทธิ์ชื่องาน Awakening เพื่อให้เกิดเป็นสิทธิบัตรทางปัญญา ที่จะช่วยยกระดับงานเทศกาลนานาชาติของเมืองไทยให้เติบโตไปได้ในระดับโลก
  3. การจัดทำออนไลน์คอมมูนิตี้ของศิลปินไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่สนใจผลงาน เข้ามาชม และสามารถตัดสินใจในการว่าจ้างหรือใช้บริการต่อไปได้
นายฉัตรชัย ชินคำ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สำหรับพันธมิตรด้านกลยุทธ์ (Strategic Partners) ของการจัดงานทั้ง 2 หน่วยงานนั้น นายฉัตรชัย ชินคำ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานหลักที่ต้องเตรียมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้กลับสู่ขาขึ้นโดยเร็วที่สุด จึงได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน Awakening Bangkok เพื่อช่วยฟื้นคืนชีวิตท่องเที่ยวและเศรษฐกิจต่างๆ ของชุมชน และต้องการสนับสนุนให้ภาคเอกชนตอบรับการเปิดประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยอย่าง SHA ซึ่งงานครั้งนี้ได้ผ่านมาตรฐานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และภายในงานก็จะมีมาตรการการป้องกันในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ตามหลักเกณฑ์ COVID-Free Setting ขณะเดียวกันอยากขอให้ผู้เข้าชมงานปฏิบัติตัวตามหลัก Universal Prevention ด้วยเช่นกัน” 

นางสาวศิวะภรณ์ ปิยะพรพันธ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ TCEB หรือทีเส็บ

นางสาวศิวะภรณ์ ปิยะพรพันธ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ TCEB หรือทีเส็บ กล่าวว่า “ทีเส็บ มีพันธกิจหลักในการส่งเสริมและพัฒนางานเทศกาลของไทย เพื่อขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ภายใต้แนวคิด “Festival Economy” หรือ “การสร้างเศรษฐกิจเมืองด้วยงานเทศกาล” โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การสร้างงานเทศกาลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับอัตลักษณ์กับเมือง และเกิดการพัฒนาต่อยอดเป็น “หนึ่งเมือง หนึ่งสิทธิบัตรงานเทศกาล” ภายใน 5 ปี เพื่อเพิ่มมูลค่า ยกระดับ และส่งออกงานเทศกาลที่เกิดจากสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ของเมืองให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ผ่านการสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างเมือง ชุมชน และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ มุ่งสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมให้เมืองเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดงานเทศกาล และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ซึ่งงาน Awakening Bangkok เป็นงานที่มีเอกลักษณ์และนำเสนอถึงอัตลักษณ์ของย่านเก่าในบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าหลังจากนี้เมื่อมีการจดลิขสิทธิ์แล้ว จะได้รับการสนับสนุนให้เติบโตเป็นงานเทศกาลในระดับนานาชาติที่สำคัญของประเทศต่อไป”

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย

ด้านผู้สนับสนุนหลักอีก 2 ราย ก็ได้เตรียมกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้เข้าชมงาน โดย นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย ในฐานะผู้นำธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ กล่าวว่า “แกร็บฟู้ด มุ่งมั่นที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการฟู้ดเดลิเวอรี่เสมอมาและเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์ด้านอาหาร จึงได้ร่วมมือกับ ไทม์เอาต์ กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ทางอาหารที่แปลกใหม่ผ่านงาน Awakening Bangkok ภายใต้แนวคิด “งานศิลป์กินได้ (Edible Art)” โดยมีไฮไลต์จากแกร็บฟู้ดภายในงาน อาทิ Immersive Digital Mapping Chef’s Table รังสรรค์เมนูพิเศษโดยเชฟแถวหน้าของเมืองไทย Foodie Night Market รวมสุดยอดร้านอาหารบนแกร็บฟู้ดจากร้านดังทั่วประเทศไทย และ Fooditude Art Installations งานแสดงแสงไฟที่สะท้อนเรื่องราวการเดินทางเพื่อเสาะแสวงหาอาหารอร่อย อีกทั้งในปีนี้ยังได้มีการประกาศรางวัล #GrabThumbsUp Awards 2022 อย่างเป็นทางการครั้งแรกภายในงานนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของแกร็บฟู้ดที่สนับสนุนให้พาร์ตเนอร์ร้านอาหารที่มีคุณภาพได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับไทม์เอาต์ กรุงเทพฯ จะช่วยสร้างความคึกคักให้แก่ธุรกิจร้านอาหารและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น”

นางสาวจรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด

ส่วน นางสาวจรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ (Johnnie Walker) กลับมาภายใต้ธีม Awaken The Street ที่มาปลุกเสน่ห์และดึงเอกลักษณ์ของท้องถนนเมืองไทยผ่านการแสดงแสงสีเสียงที่หลากหลาย เชิญชวนให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมกับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน และเพื่อตอกย้ำปรัชญา KEEP WALKING ของแบรนด์ ในการฟื้นคืนชีวิตให้กับถนนทุกสายที่เคยคึกคักแต่ต้องซบเซาไปด้วยผลกระทบจากโควิด-19 โดยร่วมมือกับศิลปินชื่อดังในการสร้างสรรค์ผลงาน และร่วมกับผู้ประกอบการต่างๆ ในการคิดค้นเมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ร่วมงาน

Awakening Spirits
Artist: H.U.I
Location: Yellow House ปากซอยนานา
ฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และเพิ่มความสิริมงคลให้ชีวิตพร้อมเดินต่อด้วยวัตถุมงคล 8 อย่างตามความเชื่อของชาวจีน ได้แก่ มังกร เซียมซี โคมแดง ป่าไผ่มงคล ประตูวงพระจันทร์ ประทัด กระดาษฟู และพระจันทร์  ในรูปแบบศิลปะยุคใหม่ที่จะเปิดประสบการณ์ทั้งรูป กลิ่น และเสียง
Presented by Johnnie Walker

โดยเริ่มจาก หน้าอาคารไปรษณีย์กลาง กับงานแสดงไฟที่ดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละท้องถนนออกมาได้อย่างชัดเจนและแปลกใหม่ ต่อเนื่องไปยังโกดัง Warehouse 30 ที่จะพาทุกคนเข้าสู่แสงสีที่สะท้อนภาพพหุวัฒนธรรมของของถนนสายสำคัญแห่งย่านการค้าและประวัติศาสตร์ให้กลับมาสว่างไสว ส่วนโซนสุดท้ายคือ บริเวณตึกแถวเก่าสีเหลืองปากทางเข้า ซอยนานา เยาวราช ที่ได้รับการสร้างสรรค์ภายใต้ธีม Modern Chinese ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-จีน ตลอดจนจุดเชื่อมการเดินเท้าที่ทำให้การท่องเที่ยวภายในงานสนุกมากยิ่งขึ้น”

“งาน Awakening Bangkok ครั้งนี้ นอกจากพันธมิตรด้านกลยุทธ์และผู้สนับสนุนหลักแล้ว เรายังได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน), โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ และโรงภาพยนตร์ปรินซ์

ปี 2565 ยังถือเป็นอีกก้าวสำคัญของผู้จัดงานและพันธมิตรทั้งหมด เพราะเป็นการปักหมุดขยายสถานที่จัดงานไปตลอดทั้งปี หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัด Awakening Samyan ที่ย่านสามย่าน-สวนหลวงไปเมื่อเดือนธันวาคม 2564 โดยเริ่มต้นกับ Awakening Bangkok ในย่านเจริญกรุง-ซอยนานาในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนจะก้าวไปสู่ Awakening Khaosan ที่ย่านข้าวสารในเดือนเมษายน และเราพร้อมขยายการจัดงานไปยังต่างจังหวัดเป็นปีแรก ได้แก่ Awakening Khon Kaen จังหวัดขอนแก่นในช่วงเดือนพฤษภาคม และ Awakening Chiang Mai ที่จังหวัดเชียงใหม่ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อร่วมกันฟื้นคืนเศรษฐกิจให้กับชุมชนในพื้นที่ท่องเที่่ยวสำคัญต่างๆ และยังสร้างความเข้มแข็งของคอมมูนิตี้ศิลปินไทยในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น” นายพงศ์สิริ กล่าวทิ้งท้าย