ชวนไปชิมอาหารอีสานรสแซ่บ ที่ “แซ่บคักๆ” สุขุมวิท 22 รวมสุดยอดความแซ่บไว้ในหนึ่งเดียว
วันนี้แอดรู้สึกยินดีหลายๆ เมื่อเพื่อนสาวบอกว่าจะชวนไปรีวิวร้านอาหารอีสานเปิดใหม่ย่านสุขุมวิท เพราะจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารร้านหรูหรามาเป็นร้านส้มตำเพิ่มระดับความแซ่บให้ชีวิตมีสีสันบ้าง และแน่นอนว่าร้านที่แอดจะแนะนำนี้ต้องไม่ธรรมดา เพราะถ้าธรรมดาเราไม่ไปค่ะ
บอกเลยว่าร้านอาหารอีสานบ้านเฮามีเยอะมาก ตั้งแต่ร้านเล็กๆ รถเข็น ไปจนถึงร้านหรูหราติดแอร์ เรียกว่าแค่เดินไปปากซอยก็หากินได้ไม่ยากแล้ว แถมหลายๆ เมนูยังเป็นอาหานจานโปรดของคนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะสาวๆ ที่กินได้กินดี บางคนกินแทบทุกมื้อ เป็นอาหารประจำชาติเอ้ยประจำตัวกันไปเลย ยิ่งร้านไหนที่ว่า ‘แซ่บ’ ต่อให้ไกลหรือคนแน่นแค่ไหนก็ต้องตามไปกินให้ได้ อย่างร้านที่แอดจะพาไปรีวิววันนี้ ไม่ใช่แค่แซ่บธรรมดา แต่ ‘แซ่บคักๆ’ คือ อร่อยมั่กๆ เลยละค่ะ
ร้านแซ่บคักๆ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 22 สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย ช่วงกลางวันถ้าเอารถมาสามารถได้จอดได้ที่คอนโดฝั่งตรงข้าม แต่แอดแนะนำให้นั่ง BTS มาลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ปากซอย 22 หรือ 24 ก็ได้ เข้ามาไม่ลึกมาก จะมองเห็นป้ายร้าน “แซ่บคักๆ” โดดเด่นอยู่ริมถนนเลยค่ะ
แซ่บคักๆ เป็นร้านเล็กๆ ขนาด 30-40 ที่นั่ง บรรยากาศภายในร้านตกแต่งให้มีกลิ่นอายของความเป็นอีสานบ้านเฮา ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาวม้าที่นำมาประดับตามมุมต่างๆ ตรงกลางมีโต๊ะยาวสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม และมุมส่วนตัวที่ทำเป็นเหมือนเพิงใช้โต๊ะเก้าอี้ไม้ไผ่ง่ายๆ ให้บรรยากาศอีสานบ้านทุ่ง บนฝาผนังและเพดานนำเอาถาดสังกะสีและเครื่องจักสาน อย่าง กระด้ง กระจาด กระติ๊บ มาตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ เรียกว่ามีมุมให้สาวๆ ถ่ายรูปเช็คอินหลายจุดเลยทีเดียว โดยเฉพาะตรงป้ายร้านแซ่บคักๆ สีสันสดใสตัดกับผนังสีเขียวเข้มที่ทางร้านจัดแคร่ไม้ไผ่และหมอนสามเหลี่ยมให้สาวๆ ได้โพสต์ท่ากันเก๋ๆ ลงโซเชียล บอกเลยใครไม่มีภาพมุมนี้ เรียกว่ามาไม่ถึงแซ่บคักๆ ค่ะ
ทางด้านขวามือจะเป็น ‘ครัวเปิด’ มองเห็นพ่อครัวแม่ครัวกำลังง่วนกับการปรุงอาหารกันสดๆ แซ่บคักๆ เป็นร้านอาหารน้องใหม่ เพิ่งเปิดบริการประมาณ 2 เดือน แต่ฝีมือไม่ใหม่นะคะ พ่อครัวที่นี่เคยเป็นเชฟใหญ่ร้านอาหารเยอรมันที่ภูเก็ตมาเกือบ 20 ปี แต่โดนพิษโควิด-19 ทำให้ต้องปิดตัวไป คุณดวงใจ เคราส์ เจ้าของร้าน และเป็ยเจ้านายเก่าของเชฟ เลยมองหาทำเลเพื่อเปิดร้านอาหารให้กับลูกน้องได้มีงานทำกัน
ด้วยความที่คุณดวงใจเคยเป็นพีอาร์โรงแรมหรูระดับห้าดาวมาก่อนที่จะเดินทางไปทำหน้าที่ภริยาทูตที่ต่างประเทศจนปัจจุบันเกษียณอายุแล้ว จึงชอบทานและทำอาหารรวมถึงคิดค้นเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ แถมลูกชายยังเป็นเชฟร้านอาหารดังอีกด้วย แต่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แทนที่จะเปิดร้านอาหารฝรั่งหรูหรา คุณดวงใจเลือกเปิดเป็นร้านอาหารอีสาน ซึ่งนอกจากจะลงทุนไม่สูงแล้ว ยังเป็นอาหารที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย ที่สำคัญคือทั้งพ่อครัวและแม่ครัวที่ร้านเป็นคนอีสานแท้ๆ ทำอาหารอีสานกินกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เรียกว่าหลับตาปรุงได้เลย คุณดวงใจก็เลยตั้งชื่อร้านนี้ว่า ‘แซ่บคักๆ’ แปลว่า อร่อยมั่กๆ ถูกอกถูกใจทั้งคนปรุงและคนกิน
คุณดวงใจเล่าให้ฟังว่าตอนแรกตั้งใจว่าให้บริการเฉพาะเดลิเวอรี่เท่านั้น ส่งอาหารย่านสุขุมวิท อโศก สาทร จึงไม่ได้คิดว่าจะต้องมีหน้าร้านใหญ่โตอะไร แต่พอเพื่อนสถาปนิกมาเห็นลำเลแล้วก็แนะนำให้ตกแต่งสำหรับนั่งทานในร้านได้ด้วย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี มีลูกค้าวอล์กอินเข้ามานั่งกินอาหารในร้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีแนวโน้มว่าอาจจะต้องขยับขยายในไม่ช้า เพราะลูกค้าบอกต่อปากต่อปากถึงความแซ่บของรสชาติ
ทางร้านจะเน้นวัตถุดิบคุณภาพดีและให้ความใส่ใจกับความสะอาดเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ปลา ไก่ กุ้ง ต้องใช้ของสด ไม่ใช้แบบแช่แข็ง ผักสด มะละกอ พริก มะนาว สั่งจากสวนดำเนิน ผักสดล้างด้วยเบกกิ้งโซดาและน้ำที่ผ่านฟิลเตอร์ จึงทานได้อย่างมั่นใจ น้ำยำที่นี่ทำสดใหม่ทุกวัน สามารถยกระดับความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวานได้ตามใจลูกค้า แม้แต่น้ำปลาร้าที่นี่ก็นำมาปรุงใหม่ เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน เรียกว่าพี่ดวงใจคัดสรรวัตถุดิบขึ้นชื่อของแต่ละแหล่งมาปรุง ชนิดที่เรียกว่าขาดทุนไม่ว่า ขอให้ลูกค้าได้รับประทานของดีๆ “ร้านเราราคาแพงกว่าข้างถนนไม่มาก แต่เราจะเน้นเรื่องของวัตถุดิบที่มีคุณภาพ” ที่สำคัญคืออาหารที่นี่แซ่บได้โดยไม่พึ่งผงชูรสค่ะ
แซ่บคักๆ มีอาหารอีสานครบทุกอย่างให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา ลาบ น้ำตก ยำสารพัด คอหมูย่าง ประเภทต้มก็มี อ่อม แกง อาหารทานเล่น อาหารจานเดียว พูดแล้วก็น้ำลายสอ ระหว่างรออาหารสั่งน้ำสมุนไพรมาดื่มให้ชื่นใจกันก่อนค่ะ มีน้ำกระเจี๊ยบ น้ำเก็กฮวย น้ำมะนาวน้ำผึ้งโซดา น้ำอัญชันมะนาวโซดา ชาไทยมะนาว (ราคา 40-45 บาท) น้ำสมุนไพรที่นี่ทางร้านทำเอง สะอาด ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพ คือ หวานน้อย แต่ถ้าอยากทานหวานสั่งเพิ่มได้ค่ะ
มาเริ่มกันที่เมนู ‘ส้มตำ’ ซึ่งเป็นนางเอกของอาหารอีสานกันดีกว่า ร้านแซ่บคักๆ มีส้มตำให้เลือกสั่งหลากหลายมาก เช่น ส้มตำปูปลาร้า ตำไทย ตำซั่วหมูยอ/แคบหมู ตำข้าวโพดไข่เค็ม (ไชยา) ตำไทยกุ้งสด/กุ้งลวก ตำไทย/ลาวปลาแซลมอน แต่ถ้ามาหลายคนแนะนำให้สั่งเป็น ‘ตำถาดไทย/ลาว’ (ราคา 240 บาท) เพราะคุ้มมาก เขาเสิร์ฟมาในถาดสังกะสีใบย่อม สามารถเลือกแซ่บ 2 แบบ คือ ส้มตำไทยและส้มตำลาว แนมด้วยไก่ทอด แคบหมูจากเชียงราย หมูยอสูตรอุบลจากบุรีรัมย์ที่นุ่มมาก เพราะไม่ผสมแป้ง ไข่ต้ม ขนมจีน และผักสด
อยากแนะนำส้มตำอีกสักจานคือ ตำไทยกุ้งสด (ราคา 140 บาท) ปกติตำไทยจะใส่กุ้งแห้ง แต่ทางร้านใช้กุ้งสดเนื้อหวานมากๆ น้ำส้มตำเปรี้ยวๆ หวานๆ สไตล์ตำไทย ใส่ถั่วลิสงคั่วเอง หอมๆ สะอาด ปลอดภัย สามารถเพิ่มดีกรีความแซ่บได้ทุกเมนูค่ะ
ไก่ย่างบนหินลาวา (ราคา 85 บาท) เมนูนี้ถูกใจแอดมากค่ะ เนื้อไก่นุ่มมากๆ หนังบางกรอบ เคล็ดลับคือการนำไก่มาย่างบนหินลาวาจากญี่ปุ่น ที่อุดมด้วยแร่ธาตุจากภูเขาไฟ ใช้ไฟกลางย่างช้าๆ แบบ Slow Cook จนหนังกรอบและเป็นการรีดไขมันไปในตัว จิ้มกับแจ่วหรือซอสพริก แซ่บคักๆ
ถ้าชอบไก่แนะนำอีกหนึ่งเมนู ปีกไก่คั่วเกลือ (ราคา 90/180 บาท) เขาใช้ปีกไก่ปรุงรสที่สั่งพิเศษจากร้านดัง ไม่ใส่สารกันบูด นำมาทอดจนเหลืองกรอบ โรยด้วยกระเทียมเจียว พริกทอด ใบมะกรูดทอด
ลาบเป็ดยะโส (ราคา 140 บาท) อาหารอีสานขาดลาบไม่ได้ค่ะ ลาบเป็ดที่นี่ใช้เนื้อเป็ดล้วนๆ มาสับละเอียด ปรุงรสด้วยข้าวคั่ว พริกป่น หอมใหญ่ และน้ำสต๊อกที่เคี่ยวเอง ท็อปด้วยหนังเป็ดทอดกรอบ โรยใบสาระแหน่ พริกแห้งและใบมะกรูดทอด เวลาทานจะได้รสสัมผัสของเนื้อเป็ดและความกรุบกรอบของหนังเป็ด กินเพลิน หยุดไม่ได้เลย
เมนูที่ขาดไม่ได้ของอาหารอีสานอีกอย่างหนึ่งคือ ‘คอหมูย่าง’ ที่นี่มีให้เลือกทั้ง คอหมูแท้ย่างจิ้มแจ่ว (ราคา 130 บาท) สำหรับคนที่ไม่ชอบมันมาก และ สันคอหมูย่างจิ้มแจ่ว (ราคา 110 บาท) ใช้สันคอหมูติดมันนิดๆ หมักข้ามคืนแล้วนำมาย่างไฟอ่อนๆ ทางร้านจะย่างวันละ 2 รอบ เช้า-บ่าย ไม่ย่างทิ้งไว้นาน เพราะจะแข็งและไม่อร่อย กินกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของทางร้าน ฟินเวอร์เลยทีเดียว
สาวๆ ที่รักสุขภาพต้องสั่งจานนี้ ปลานิลย่างบนหินลาวา (ราคา 250 บาท) ใช้ปลานิลตัวเขื่องย่างกับสมุนไพรจนหอมกรุ่น เสิร์ฟมาพร้อมกับมะเขือยาวเผา ทานคู่กับน้ำจิ้ม 2 แบบ ทุกเมนูทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ ซึ่งมีให้เลือกทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำ หรือจะสั่งเป็นข้าวสวย ขนมจีน ก็ได้นะคะ
ประเภทต้ม แกง อ่อม ก็มีให้เลือกมากมาย เช่น อ่อมไก่ อ่อมหมู (ราคา 95 บาท) ที่ทางร้านเคี่ยวน้ำซุปเอง หวานโดยไม่ต้องใส่ผงชูรส ใช้เนื้อไก่ส่วนอกไม่ติดหนังให้รำคาญใจ ใครชอบทานผักแนะนำให้สั่ง มีผักสมุนไพรหลายชนิดที่มีกลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์ รสชาติจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดจนเกินไป ซดร้อนๆ คล่องคอ หรือจะสั่งเป็นต้มแซ่บกระดูหมู (ราคา 130 บาท) ก็แซ่บหลายเด้อ กระดูกหมูอ่อนเคี้ยวกรุบๆ ไม่เหนียวเลย
อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่หลายคนสงสัยว่ามาอยู่ในเมนูอีสานได้ยังไงนั่นคือ “ขาหมูเยอรมันทอด” เฉลยเลยว่าเป็นไอเดียบรรเจิดของคุณดวงใจที่นำเอาขาหมูเยอรมันที่เชฟถนัดอาหารเยอรมันอยู่แล้วมาเสิร์ฟแทนหมูย่างคลุกเครื่องส้มตำ หรือที่เรียกว่า “หมูตกครก” นั่นเอง ขาหมูเยอรมันทอดเสิร์ฟกับน้ำจิ้มแซ่บคักๆ และตำถั่ว (ราคา 420 บาท) ทางร้านใช้ขาหมูสั่งพิเศษขนาด 1.7 กก. มาทอดจนหนังกรอบ ไร้มัน เนื้อนุ่มมากค่ะ กินคู่กับตำถั่วสูตรแซ่บคักๆ แทนกระหล่ำปลีดองแบบเยอรมัน แถมด้วยจิ้มจิ้มรสแซ่บ เป็นการผสมผสานอาหารไทย-เยอรมันได้อย่างลงตัว บอกเลยจานนี้ต้องสั่ง
แซ่บคั่กๆ ยังมีเมนูอาหารจานเดียวน่ากินอีกมากมาย เช่น ข้าวกระเพราอกไก่ไข่ดาว, ข้าวกระเพราเนื้อน่องลายตุ๋นไข่ดาว, ข้าวกระเพราทะเล ไข่ดาว, ข้าวผัดพริกเนื้อแดดเดียว+ตำไทย/ลาว, สะโพกเป็ดตุ๋นราดซอสกระเพรา ข้าว ไข่ดาว, ยำขนมจีนหมูย่าง ขนมจีนน้ำยาป่าลูกชิ้นปลา ตีนไก่ และเมนูทานเล่น เช่น ปอเปี๊ยะผัก ปอเปี๊ยะไส้ไก่ เห็ดเข็มทองทอดกรอบ หมูยอทอด หมู/เนื้อแดดเดียวทอด ทุกเมนูจะมานั่งทานที่ร้านก็แซ่บ หรือสั่งเดลิเวอรี่ก็สะดวก ถ้าสั่งผ่านแอพ Robinhood ทางร้านลดราคาให้อีก 8 % ทุกเมนู คุ้มมากๆ ค่ะ
กินอาหารแซ่บๆ กันไปแล้ว ตบท้ายด้วยของหวานเย็นๆ อย่างไอศกรีมกันสักนิดดีไหมคะ อยากให้ลองสั่งนะคะ เพราะไอศกรีมที่นี่เขาเป็นไอศกรีมโฮมเมด เนื้อไอศกรีมเข้มข้น หวานมัน มีให้เลือก 2 แบบ คือ ไอศกรีมฝอยทอง และไอศกรีมกะทิอบควันเทียน (ราคา 79 บาท) กินแล้วรับรองจะติดใจ
แซ่บคักๆ ร้านอาหารอีสานน้องใหม่ที่บอกเลยว่าคนรักความแซ่บต้องมาลอง เพราะนอกจากรสชาติจะแซ่บแบบไม่ต้องพึ่งผงชูรสแล้ว ที่นี่ยังใช้วัตถุดิบคุณภาพดี สะอาด ถูกอนามัย รับรองว่าทานแล้วดีต่อสุขภาพ แถมราคายังจับต้องได้อีกต่างหาก แอดลองมาแล้วการันตีความแซ่บทุกเมนูค่ะ
แซ่บคักๆ
199/ 4 ซอย เศรษฐีทวีทรัพย์ สุขุมวิท 22 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 กรุงเทพมหานคร โทร. 02 126 5354 เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 21.30 น.
บริการเดลิเวอรี่ Line Man, Grab Food, พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าที่สั่งอาหารจากแอพ RobinHood ลด 8% ทุกเมนู ไม่มีเซอร์วิส ชาร์จ
facebook.com/zaabkakkak / instagram.com/@zaabkakkak / line@zaabkakkak