LAE LAY GRILL…Eatmosphere อิ่มบรรยากาศสุดโรแมนติก @ อ่าวนาง กระบี่
ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ หลายคนนึกถึงป่าและภูเขา แต่อยากให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวทะเลดูบ้าง รับรองว่าให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำไม่แพ้กัน วันนี้เราจะพามาเที่ยว “กระบี่” เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาล ที่นี่นอกจากน้ำทะเลจะใส ชายหาดจะสวยแล้ว ยังมีเกาะแก่งที่งดงามอีกมากมาย เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติอย่างแท้จริง
มาถึงทะเลแล้วถ้าไม่กินอาหารทะเลก็เหมือนจะมาไม่ถึง ร้านอาหารที่เราจะพาคุณไปคือ LAE LAY GRILL ตั้งอยู่ที่อ่าวนางหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกระบี่ ตัวร้านอยู่ระหว่างอ่าวนางกับหาดนพรัตน์ธารา ใกล้กับหาดไร่เลย์ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องกิจกรรมปีนผา สำหรับคนที่รักการออกกำลังกาย กระซิบว่าที่นี่มีค่ายมวย “ขุนศึกมวยไทย” ด้วยนะคะ
LAE LAY GRILL เป็นร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของเมืองกระบี่ หลายคนอาจจะเคยแวะมาเช็คอินแล้ว แต่ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง เราเชื่อว่าคุณจะได้ความประทับใจกลับไปแน่นอน เพราะนอกจากอาหารอร่อย ราคาไม่แพง บริการดี วิวสวยแล้ว สถานที่ยังถูกใจเหล่าฟู้ดดี้แน่นอนค่ะ
LAE LAY GRILL อยู่ห่างจากสนามบินกระบี่เพียง 30 นาที ลงเครื่องแล้วสามารถขับรถมาเติมพลังกันก่อนที่จะไปลั้ลลาต่อที่อื่นได้เลยค่ะ ร้านนี้เขาเปิดมา 12 ปีแล้ว เดิมทีเป็นร้านเล็กๆ แต่เพราะรสชาติอาหารที่ถูกปาก บรรยากาศดี บริการเยี่ยม “ปากต่อปาก” ทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมามากขึ้น จากเดิมที่มีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ วันนี้เริ่มมีคนไทยเพิ่มขึ้น ทำให้เจ้าของต้องขยับขยายให้มีพื้นที่รองรับลูกค้ามากขึ้น
ร้านนี้หาไม่ยากค่ะ จากหาดอ่าวนาง ขับรถมาเรื่อยๆ เข้าสู่ถนนคลองแห้ง ร้านจะอยู่ทางขวามือ ตัวร้านตั้งอยู่บนเนินเขา มีทางเข้า 2 ทาง คือ จอดรถด้านล่าง แล้วเดินขึ้นบันไดไปสู่ชั้น 2 และ 3 ระหว่างทางสามารถแวะเซลฟี่เก็บภาพบรรยากาศของร้านไปด้วย หรือจะขับรถวนขึ้นไปจอดที่หน้าร้านอาหารเลยก็ประหยัดเวลาดี
LAE LAY GRILL เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 4 โซน คือ Art of Sea เป็นโซนที่ใหญ่ที่สุดอยู่ชั้น 3 โซน Gallery อยู่ชั้น 2 ถ้าเดินจากด้านล่างจะผ่านโซนแกลเลอรี่ก่อน โซนนี้ตกแต่งด้วยงานศิลปะร่วมสมัย โซนที่ 3 คือ Japan Tang kay (แจแปน ตังเก) เป็นมุมอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ในช่วงโลว์ซีซั่นจะย้ายขึ้นมาอยู่กับโซน Art of Sea และโซนสุดท้าย Mountain Cottage ชั้น 4 เป็นบาร์ที่บริการเครื่องดื่มและค็อกเทลต่างๆ
ถ้าไม่รีบมากหรือหิวจนตาลาย อยากให้เดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เจ้าของตั้งใจตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เช่น โซนแกลเลอรี่ ซึ่งจัดไว้เป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองของจังหวัดและนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะ บริเวณนี้ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะทั้งบนผนังและเพดานห้อง สะท้อนถึงความงามของท้องทะเลอันดามัน เมื่อเดินขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งวิวก็จะเปลี่ยนตามไป ถ้าคุณมาในช่วงเย็นที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
Art of Sea เป็นโซนหลักของร้านสำหรับลูกค้าทั่วไป แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือภายในอาคารและกลางแจ้ง ซึ่งลูกค้ามักจะจับจองที่นั่งริมระเบียงเพื่อชมทัศนียภาพของอ่าวนางและพระอาทิตย์ตกยามเย็น บริเวณนี้ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะที่สะท้อนจิตวิญญาณของความเป็นปักษ์ใต้และความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นเรือหัวโทงที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นโต๊ะอาหาร หรือโคมไฟที่ซ่อนเงาของหนังตะลุงไว้เหมือนกำลังดูหนังตะลุงจริงๆ บนเพดานประดับด้วยประติมากรรมรูปฝูงปลากำลังแหวกว่าย ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ใต้ท้องทะเลอันดามัน รอบๆ ห้องตกแต่งด้วยรูปปลาทะเลต่างๆ ไซดักปลา ปะการัง ฯลฯ ซึ่งเป็นผลงานออกแบบของ “คุณกิตติศักดิ์ สุธรรมโชติ” มัณฑนากรที่ออกแบบให้โรงแรม Siam @ Siam กรุงเทพฯ และพัทยา ตอนกลางคืนแสงไปจากหลอด LED ส่องสว่างให้ความรู้สึกรื่นรมย์ไปกับสถานที่ซึ่งตกแต่งอย่างมีรสนิยมและกลมกลืนไปกับวิวธรรมชาติรอบตัวมากยิ่งขึ้น สมกับคอนเซ็ปต์ของทางร้าน ‘แลทะเล…LAE LAY Grill Eatmosphere’
อิ่มบรรยากาศกันไปแล้วถึงเวลาอิ่มท้องกันบ้าง ปกติมาที่นี่ต้องสั่งอาหารทะเลเผา ซึ่งเป็นเมนูเด่นของที่นี่ แต่วันนี้เจ้าของร้านหนุ่มหล่อ “คุณชาย-สุทธินันท์ ฤทธิบริรักษ์” จัดเต็มให้คณะของเราด้วยเมนูพิเศษ เริ่มจานแรกด้วย “ปูนิ่มคั่วพริกเกลือ” เป็นเมนูแนะนำของทางร้านที่บอกเลยว่าไม่เหมือนที่อื่น เขานำปูนิ่มมาผสมกับใบเล็บครุฑ (ใบเล็บครุฑเป็นไม้มงคลหายาก มีสรรพคุณเป็นยา) จากนั้นทอดจนเหลืองกรอบ คั่วปรุงรสด้วยกระเทียม พริกและเกลือ รสชาติไม่เผ็ดมาก เป็นเมนูทานเล่นได้ทุกชาติ เมนูที่ 2 ยังอยู่ที่ปูค่ะ “ปูม้าคั่วไข่เค็ม” เป็นเมนูซิกเนเจอร์มีเฉพาะที่ร้านแลเลกริลล์เท่านั้น เขาใช้ไข่เค็มไชยานำมาคั่วแบบแห้ง ไม่แฉะอย่างที่อื่น เวลากินจะได้รสสัมผัสของเนื้อไข่แดงที่เคลือบอยู่บนปูม้าที่กรุบกรอบจนอยากจะจะกลืนกินเธอทั้งตัว เมนูนี้ทุกคนยกนิ้วให้ว่าอร่อยจริง!
ยังอยู่กันที่อาหารทะเลค่ะ “กุ้งทอดราดซอสมะขาม” กุ้งตัวใหญ่ทอดราดด้วยซอสมะขามสูตรเฉพาะของร้าน รสสัมผัสของเนื้อกุ้งแน่น กรอบเด้ง เข้ากันได้ดีกับความเปรี้ยวของซอสมะขาม ลองเมนูปลากันบ้าง “ปลากะพงนึ่งมะนาว” ฟังชื่อธรรมดาใช่ไหมคะ แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย เขาใช้ปลากะพงตัวใหญ่เนื้อแน่นนึ่งด้วยสมุนไพรไทยราดด้วยน้ำซอสมะนาวรสแซ่บ เนื้อปลาหวานมากบอกถึงความสดจากทะเล น้ำยำรสชาติกลมกล่อมกำลังดี เมนูนี้น่าจะถูกปากคนไทย แต่ชาวต่างชาติสามารถระบุและแยกซอสและพริกได้ค่ะ
นอกจากซีฟู้ดแล้วที่นี่ยังมีอาหารไทย-จีน และอาหารพื้นบ้าน แนะนำ “เนื้อสันในพริกไทยดำ” เนื้อไทยโคขุนเกรดพรีเมียมผัดกับเครื่องเทศและพริกไทยดำ เนื้อนุ่มมากค่ะ ไม่เหนียวเลย แถมยังหอมกลิ่นเครื่องเทศอีกด้วย ใครไม่กินเนื้อ แนะนำ “หมูตุ๋นสมุนไพรจีน” หรือ “หมูฮ้อง” อาหารพื้นบ้านดั้งเดิมของภูเก็ต แต่ทางร้านนำมาประยุกต์เป็น “หมูฮ้องแลเล” สูตรเฉพาะของแลเลกริลล์ ใส่เครื่องยาจีนที่มีสรรพคุณบำรุงร่ากาย เช่น ดอกไม้จีน หวยซาน เห็ดหอม ใช้หมูสามชั้นอย่างดีตุ๋นกับสมุนไพร เคี่ยวจนเนื้อหมูนุ่มละลายในปาก รสชาติละมุนลิ้น ไม่หวานมาก และไม่มีกลิ่นเครื่องยาจีนเลย
เมนูแกงเผ็ดก็มีค่ะ แนะนำ “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” แกงเผ็ดอกเป็ดย่าง รสชาติเข้มข้น ไม่เผ็ดมาก ชาวต่างชาติก็ทานได้ เนื้ออกเป็ดแล่มาชิ้นใหญ่หนากำลังดี เต็มปากเต็มคำ ไม่มีกลิ่นสาบเลย กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็อิ่มท้องแล้ว ตบท้ายด้วยเมนูเพื่อสุขภาพ “ผัดบล็อกโครี่น้ำมันหอย” เมนูง่ายแต่ทำให้อร่อยยาก ใช้บล็อกโครี่ดอกใหญ่ผัดกับเห็ดหอมและน้ำมันหอยซอสสูตรเฉพาะของแลเลกริลล์ ตัวผักไม่สุกจนเกินไปมีความนุ่มชุ่มน้ำซอสที่ปรุงรสมากำลังดี…อาหารทุกจานอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ค่ะ เพราะเขาคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ คุณภาพดี ปรุงโดยเชฟระดับยอดฝีมือจากห้องอาหารไบยุน โรงแรมบันยันทรี ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ
สำหรับคนที่ชอบดื่ม ไม่ต้องโยกย้ายที่ไปไหน ชั้น 4 เป็นบาร์เปิดใหม่ชื่อว่า Mountain Cottage บริการเครื่องดื่มทั้งแบบคลาสสิคและสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยนำเอาวัตถุดิบซึ่งเป็นเครื่องปรุงของไทยรวมถึงผลไม้ไทยมาเป็นส่วนประกอบ เพราะอยากให้คนไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็น THAI SOUR ค็อกเทลรสชาติไทยๆ ที่มีส่วนผสมของกระเจี๊ยบและมะตูม ชอบที่มีความหอมของมะตูม รสชาติออกเปรี้ยวหวานนิดๆ TOM YAM COCKTAIL ค็อเทลต้มยำ เครื่องดื่มรสชาติจัดจ้านถึงรสต้มยำ มีความหอมของสมุนไพร ข่า ตะไคร้ มะกรูด พริก มะนาว ใครชอบสมุนไพรแนะนำให้ลองเลย
TIGER SOUR ค็อกเทลที่มีรสชาติเฉพาะของยาดองเหล้าตราเสือ 11 ตัว ผสานมากับความเปรี้ยวอมหวานของ Triple Sec และ Lime juice เกิดเป็น Pink Lady ค็อกเทลหวานซ่อนความเปรี้ยวเหมาะกับแม่เสือสาว และยังมีค็อกเทลตัวใหม่อย่าง MACHA LATTE MARTINI ชาเขียวมัทฉะรสชาติออกหวานนิดๆ MANGO STICKY RICE ค็อเทลข้าวเหนียวมะม่วง หอมกลิ่นมะม่วงและกะทิ เมนูนี้ชาวต่างชาติน่าจะชอบ สุดท้ายเป็น PASSIONFRUIT MOJITO รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ ค็อกเทลที่นี่จะมีให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่แอลกอฮอล์น้อยไปถึงมาก ก่อนสั่งลองสอบถามจากบาร์เทนเดอร์หรือพนักงานก่อนก็ได้ค่ะ พนักงานที่นี่อัธยาศัยดี เป็นกันเองกับลูกค้า บริการประทับใจ
LAE LAY Grill เลขที่ 89 หมู่ 3 ถ.คลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เปิดบริการ 11.00-22.00 น. โทร. 084 849 0001, 075 661 588 www.laelaygrill.com/Cuisine/ www.facebook.com/LaeLayGrill/Line id: laelaygrill1 Website: goo.gl/YWvWTZ Map: goo.gl/PF34oO
KHUNSUEK MUAY THAI GYM
อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นว่าที่นี่เขามีค่ายมวยด้วยนะคะ อยู่ใกล้กับร้านอาหาร LAE LAY Grill บริหารงานโดยคุณชาย-สุทธินันท์ ฤทธิบริรักษ์ ซึ่งชื่นชอบศิลปะการชกมวยมาตั้งแต่เด็ก และได้มีโอกาสเรียนมวยไทยกับ “เพชรเอก ส. สุวรรณภักดี” อดีตแชมป์มวยไทย ทำให้ตั้งใจสืบสานอนุรักษ์มวยไทยในเชิงกีฬาและศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย เป็นที่มาของ “ขุนศึกมวยไทยยิม” ยิมมาตรฐานแห่งแรกของกระบี่ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2561
ประกอบด้วย ยิมมวย ฟิตเนส ห้องพัก (Hostel) ห้องล็อคเกอร์ ห้องนวด ร้านขายสินค้า ร้านกาแฟ เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวและคนทั่วไปที่รักการออกกำลังกายและศิลปะการต่อสู้ของไทย มีหลายโปรแกรมให้เลือกตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เป็นการออกกำลังกาย เรียนได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และขั้นสูงเรียนรู้สำหรับคนที่อยากเรียนรู้แม่ไม้มวยไทย นำทีมโดย “ครูเอก” อดีตแชมป์มวยไทยชื่อดัง
ขุนศึกมวยไทยยิม เลขที่ 89/1 หมู่ 3 ถนนคลองแห้ง ต. อ่าวนาง อ. เมืองกระบี่ จ. กระบี่ เปิดบริการ 8.00 – 20.00 น. โทร. 075 661 199, 061 896 9889 Line id : @khunsuekmuaythai www.khunsuekmuaythai.com
มาที่เดียวครบจบทุกอย่าง อาหาร ความบันเทิง กีฬาและสุขภาพ @ LAE LAY Grill และ KHUNSUEK MUAY THAI GYM