‘กรมพระศรีสวางควัฒน’ โปรดให้มูลนิธิศรีสวางควัฒนในพระอุปถัมภ์ฯ ลงพื้นที่มอบชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และนม แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานคณะกรรมการมูลนิธิศรีสวางควัฒนในพระอุปถัมภ์ฯ ทรงติดตามความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ที่เกิดขึ้นทางภาคเหนือของประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความห่วงใยยิ่ง แม้บัดนี้สภาวะน้ำท่วมจะลดลงแล้ว แต่ด้วยทรงตระหนักถึงความสำคัญของการฟื้นฟูบ้านเรือนที่พักอาศัย ให้กลับมามีสภาพดังเดิมเพื่อประชาชนสามารถกลับเข้าพักอาศัยได้อย่างมีความสุข เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง
จึงโปรดให้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิศรีสวางควัฒนในพระอุปถัมภ์ฯ จัดเตรียมชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด ประกอบด้วยถุงมือยาง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ถุงขยะ แผ่นใยขัดเอนกประสงค์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และน้ำยาล้างจานจำนวน 906 ถุง ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบถุงชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดดังกล่าว แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในจังหวัดเชียงราย
โดยมี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัย และรับมอบถุงมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ฯ เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ อำเภอเมืองเชียงราย และพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ณ อาคารเอนกประสงค์ โบสถ์บ้านฟาร์มสัมพันธกิจ หมู่1 ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ยังมีนมกล่องจิตรลดาและนมกล่องวาริชอีกจำนวน 4,572 กล่อง นำไปมอบแก่ผู้ประสบภัยประชาชนจิตอาสา บรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ภาครัฐฯ ด้วย ซึ่งในการนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย อำนวยความสะดวกในการเข้าพื้นที่ และศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก ให้การสนับสนุนจัดส่งมายังพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย
จากนั้น หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ฯ พร้อมคณะ ยังได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด ให้กับประชาชนในพื้นที่บ้านเมืองงิม หมู่ 4 ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และดินถล่ม ในหลายอำเภอ ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนของราษฎร พื้นที่ด้านการเกษตร และสาธารณะประโยชน์เสียหาย ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการช่วยเหลือ และฟื้นฟู ซึ่งปัจจุบันหลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังมีหลายพื้นที่ที่ต้องเร่งฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วต่อไป